“จดหมายเตือนจากพญายม”

โดย...เณร อยู่นาน  

 

 

 

รายละเอียดดวงชะตา-ลัคนาสถิตราศีเมษ ๑๒ สถิตราศีตุลย์เล็งลัคน์ ๕๘ สถิตราศีธนู ๐ กุมลัคนา ๔๖ สถิตราศีพิจิก ๙ สถิตราศีมีน ๗ สถิตราศีกุมภ์ ๓ สถิตราศีกันย์                  

                                

 

                    ขอกราบเรียนมายังท่านพญายมด้วยความเคารพอย่างสูงว่า การขึ้นต้นชื่อเรื่องของข้อเขียน ดังกล่าวข้างต้นนี้ มิได้มีเจตนาอื่นใดเคลือบแคลง

                    หากเป็นความประทับใจของผมที่ได้อ่านเรื่อง เรื่องหนึ่งของนักเขียนชาวจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มันเป็นเรื่องสั้น ๆ ที่ให้ข้อคิดเป็นอย่างดี ถึงความที่ว่า คนเราที่เกิดมาทุกคน ล้วนต่างแสวงหาช่องทางที่ไม่ต้องตายไม่ได้เลยสักคน แม้ตัวผมเองก็คงต้องเป็นอย่างเขาเหล่านั้น

                    เรื่องสั้นดังกล่าว มีเนื้อหาโดยย่อคือ มีชายคนหนึ่งอายุยังไม่มากตายไป แล้วได้ไปพบกับพญายมฯ เพื่อตัดสินคดีความว่า ในสมัยยังมีชีวิตอยู่ เคยทำคุณงามความดีอะไรไว้บ้าง ชายคนที่ตายไปไม่ค่อยได้ทำดีอะไรไว้ หรืออาจจะทำบ้างแต่ลืม ก็เลยถูกท่านพญายมฯอบรมว่าเกิดมาเป็นคนทั้งที ประมาทชิวิต ไม่สร้างสมความดีไว้ ทั้งที่ท่านก็ได้จดหมายมาเตือนตั้งหลายครั้ง และท่านก็เตือนทุกคน

                    ชายคนดังกล่าวกลับเถียงท่านพญายมราช ว่าเขาไม่เคยได้รับจดหมายเหล่านั้นแม้ฉบับเดียว ท่านพญายมก็เลยถามว่า เธอไปทำแว่นสายเมื่ออายุเท่านั้นใช่ไหม?  ผมเริ่มขาวโพลนเมื่ออายุเท่านั้นใช่ไหม? ไปทำฟันครั้งแรกเมื่อนั้นเมื่อนี้ใช่ไหม?  ชายคนดังกล่าวงงแต่ยอมรับว่าถูกต้อง แต่ยังยืนยันว่าไม่ได้รับจดหมายเตือน ท่านพญายามฯก็เลยบอกว่านั่นแหละเป็นจดหมายเตือนจากเรา !

                    นี่แหละครับที่ยังประทับใจผมอยู่ และท่านผู้อ่านเล่าครับ มีใครบ้างไหม ? ที่ยังไม่ได้รับจดหมายเตือนจากท่านพญายมราช !

 

                    แต่ที่เพิ่งมาระลึกนึกถึงขึ้นในตอนนี้ เนื่องจากเมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมได้พบกับชายแก่คนหนึ่ง อายุของเขา 70 เศษ ที่ว่า 70 เศษนั้นมิได้หมายถึงว่าเศษเป็นเดือนเป็นวัน อย่างเข้าใจกันโดยทั่วไป  เศษอายุของเขาเป็นปีครับ กี่ปีอย่าให้ผมต้องบอกในตอนนี้เลย ท่านผู้อ่าน ๆ ไปเรื่อย ๆ จะจะทราบได้เอง

                    วันนั้นเขาเดินเข้ามาหาผมแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ เป็นคนที่ขาดมรรยาทอันดีงามอย่างน่ารังเกียจ แล้วนั่งตรงหน้าผม บอกกับผมว่า

                    “ไหน...ช่วยดูดวงให้ผมหน่อยสิ เมื่อไรผมจะตาย? ดูมาหลายราย ยังไม่มีใครคอนธงให้ผมซักราย !”

                   โปรดทราบนะครับว่าคำว่า”คอนธง” นี่ผมคิดขึ้นมาเองจริง ๆไม่ได้ลอกเลียนใครมาสักนิด เห็นไหมครับว่า คนอย่างผมน่ะ มีมันสมองเหมือนกัน! ว่าถึงความหมายก็คือคอนธงเอาไว้บนบ่า ไม่ยอมฟัน! และไม่ยืนยัน ว่าทายผิดหรือถูกนั่นเอง

                   

                    ชายคนที่ผมกล่าวถึงนี้เขาเกิดตรงกับ ปีชวด วันศุกร์ เดือน 12 แรม 14 ค่ำ ทางสากลเป็นวันที่ 13 พฤศจิกายน 2479 เวลาใกล้ค่ำ ซึ่งก็ช่างน่าสนใจ เพราะในปีนี้ คือ 2552 ก็เป็นวันศุกร์ที่ 13 เหมือนกัน เดือน 12 เหมือนกัน ต่างกันเฉพาะข้างแรม  ถ้าทำดวงชะตาออกมาก็ดังที่เห็นอยู่ข้างบนนี้

                    เนื่องจากเจ้าชะตาตั้งความหวังไว้สูงต่อการมาให้ผมทายหรือพยากรณ์ ว่าวันที่จะต้องตายจริง ๆ จะมาถึงเมื่อไรกันแน่ จะได้ตระเตรียมตัวไว้ไม่ให้บกพร่อง จนเดือดร้อนไปถึงคนอื่นหรือลูกหลาน

                    ดังนั้นผมจึงต้องพูดกันแต่เรื่องของความตายเป็นหลัก แม้มรรยาทโหรห้ามเอามาทาย แต่ผมจะทาย ใครจะทำไม? ทุกวันนี้ผมทายเกือบทุกเรื่องที่เขาถาม โดยเฉพาะเรื่องบุตรหลานทารกทาริกา เรื่องผัว ๆ เมีย ๆ

                   เรื่องอื่นของคนในวัยนี้คงเป็นเรื่องเล็ก หรือไม่ก็เห็นอยู่กับตาแล้ว ว่าคู่เป็นอย่างไร บุตรหลาน เพื่อนฝูง บริวารรอบข้างเป็นอย่างไร งานการประสบความสำเร็จแค่ไหน จนหรือรวยอย่างไร  ที่ยังไม่รู้คือตายเมื่อไรเท่านั้น ถ้าทุกคนรู้ถึงวันตายของตนเองผมว่าน่าจะเป็นการดี จะได้ทำอะไร ๆ เสียให้เรียบร้อย โดยเฉพาะกับพวกที่มีมรดกมาก จะได้โอนกันเสีย ไม่ต้องมาแย่งหรือฆ่ากันตายทีหลัง ทีนี้มาว่ากันต่อ

                    

                    ตามตำนานเขาว่าคนที่เกิดราศีเมษ ราศีนี้นอกจากจะเป็นราศีธาตุไฟชั้นหนึ่งแล้วยังเป็นราศีประเภทปัศวะ เป็นราศีของสัตว์ 4 เท้า ราศีประเภทนี้มีราศีพฤษภและราศีสิงห์อีก 2 ราศึ

                    และกำหนดเกณฑ์ไว้ 10 นั่นหมายถึงว่าถ้าดาวอะไรในดวงชะตากำเนิดมีอยู่ในเรือนที่ 10 คือเรือนกรรมะ ชะตาคนนั้นจะได้ดาวนั้นเป็นเกณฑ์  บางตำนานเขาบังคับแต่ละดาวเอาไว้ คือถ้า ๕๒๓๑ เป็นปัศวะเกณฑ์ ยศจะได้เป็นพระยานาหมื่น ดังนั้นคนนี้จึงไม่ได้เป็นพระยาและไม่มีนาเลยสักแปลง มีก็แปลงเล็ก ๆ ปลูกอะไรไม่ขึ้นแล้ว

                    ยิ่งถ้าดูตามตัวเลขที่ขึ้นมาในดวงยิ่งน่าเป็นห่วงหลายประการ ประการแรก ๓ ดาวเจ้าเรือนลัคนา หรือที่เรียกกันว่าตนุลัคน์เป็นอริกับตัวเอง เท่ากับความความขยันเป็นอริ คือเกียจคร้านหรือขยันแบบไม่เป็นเรื่อง แถมมาจากเรือนมรณะเสียอีกก็เลยเอาดีไม่ได้

                    ๑๒ เล็งลัคน์ ถ้าเป็นหญิงก็น่ารักหน่อย แต่นี่เป็นชาย เลยใจรวนเรง่าย เปลี่ยนใจง่ายหรือมักง่าย หรือใจง่ายอะไรทำนองนี้ แต่ ๒ เป็นพันธุและเดชตามทักษา ๑ เป็นอายุและปุตตะ เมื่อมาเล็งลัคน์ก็ถือว่าเรื่องเหล่านี้ดีพอใช้ คือสุขภาพดี บุตรดีพอใช้ ญาติดีพอใช้ เป็นคนค่อนข้างดุหน่อย

                    ๔๖ มรณะหมด ปากไม่ดี การเงินไม่ได้เรื่อง เพื่อนก็ไม่มี ทั้งชีวิตมีอยู่คนเดียว ๔ เป็นมูลละ ไม่มีสมบัติอะไรเลย และอีกเรือนหนึ่งคือราศีกันย์เป็นอริ คือปากพาจน ศัตรูมาจากปาก มาจากการพูด พูดขวางหูผู้คนเขา  และเมื่อ ๖ ปัตนิมรณะ คู่ไม่เสริมอะไรเลย บริวารไม่ดีเพราะ ๖ เป็นดาวบริวารด้วย

                   ๕ เกษตร ๘ กาลี คุณธรรมอยู่กับดาวกาลี เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดีอยู่ไม่นานดีแตกง่าย ดีที่ ๘ ไม่เข้มแข็งมาก เพราะเรือน ๕  ก็เลยชั่วไม่มาก คือพอมีดีบ้างเป็นครั้งคราว สลับกันไป ๕ เป็นมนตรี เป็นเกษตรผู้อุปถัมภ์ดี ได้รับความช่วยเหลือจากคนโน้นคนนี้ ที่ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่ญาติมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่

                   ๗ โยกหลัง ร่วมธาตุกับ ๑ และ ๒ เครียด ฟุ้งซ่านเป็นบางคราว ร้อนรน อยู่ในเรือนเพื่อน ๘ ก็จริงแต่เพื่อนเป็นกาลีหรือคนพาล ก็เลยต้องพาลตามเพื่อนไปบ้าง คิดได้จึงกลับตัวคือไม่เป็นคนพาลตลอดชีวิต บางครั้งก็ดีพอคุยกันรู้เรื่อง

                   ที่ว่ามาผมไม่ได้ทายเขาหรอกนะครับ ขืนทายแบบที่ว่านี้ คงต้องโดนสิ่งที่ผมไม่พึงปรารถนาแน่ แต่เมื่อตั้งดวงขึ้นมาทั้งก็แสดงความรู้ออกมาหน่อย พออย่าให้ใครจับทางได้ว่าที่แท้ในสมองยังมีที่ว่างอีกเยอะ สมควรต้องไปศึกษาค้นคว้าอีกยาวไกล

      

                   ทีนี้เรามาว่ากันถึงเรื่องสำคัญ คือเรื่องของความตาย ว่าคน ๆ นี้จะตายเมื่อไหร่กันแน่ เพราะตอนนี้ดูจำนวนอายุแล้วก็สมควรอย่างยิ่ง

                   ตามราศีปัศวะเกณฑ์ฆาตเขาว่าปัศวะชีโว นั่นหมายถึงว่าดาว ๕ เป็นกาลีจรเมื่อไรเมื่อนั้นเข้าฆาต  ถ้าอย่างนั้นชายคนนี้ก็เข้าฆาตมาแล้วตอนอายุ 72 ตอนนี้ 73 พ้นฆาตแล้ว แบบนี้ 81 ก็จะเขาอีกรอบล่ะซิ โอย..คงเป็นไปไม่ได้หรอกครับ มันนานเกินไป เอากันที่ใกล้ ๆ หน่อยดีกว่า

                   เช่นในช่วงจากวันที่ 7 ธันวาคม 2554 ดาว ๗ ย้ายเข้าราศีตุลย์ เล็งลัคนา ทับ ๑ ซึ่งเป็นดาวอายุ ทับ ๒ ซึ่งเป็นดาวเดช  ตอนนั้นเขาอายุ 75 ย่าง เมื่อเกิดวันศุกร์ดาว ๗ เป็นกาลีจร 1 ปี เพียงแต่เป็นกาลีมีกำลังไม่เต็มร้อย พออายุเต็ม 75 ย่าง 76 ภูมิทักษาก็จะไปที่ ๒ ดาว ๑ อายุเป็นกาลีจร  ถ้าตรงนี้ยังไม่ตายก็น่าจะไปได้อีกนิด คือรอ ๘ กาลีเดิมเข้ามาซ้ำ

                   พอวันที่ 10 ธันวาคม 2555 ดาว ๘ ย้ายเข้ามาช่วยอีกดาว ๘ นี่เดิมมันก็เป็นกาลีอยู่แล้วเมื่อมาพบคู่มิตร ๗ ก็น่าจะช่วยเหลือกันและกันได้

                   เรียกว่าเป็นการชุมนุมดาวบาปเคราะห์ ๗ กาลีจร และ ๘ กาลีเดิม  และ ๕ ก็ล่ำลาจากราศีเมษไปอยู่ราศีพฤษภแล้วตั้งแต่วันที่  15 พฤษภาคม 2555 อย่างไม่มีวันย้อนกลับมาดูดำดูดีอีก ไปแล้วไปลับ

                   คือถ้าสรุปพอให้เห็นชัด ยามที่ ๗ เป็นกาลีจร ๘ กาลีเดิมเข้าเล็งลัคนา ทับอาทิตย์ ๑ ทับจันทร์ ๒ และในช่วงนั้น ๓ ก็จรเข้าราศีมังกรพอดี ในราศีมังกร ได้ตำแหน่งปัศวะเกณฑ์ “อายัณโฆษ”กล่าวว่าทายอัมพุปัศวะเหมือนนระ คือทายเหมือนทับลัคน์

                   ผมประมวลดาวจรมาถึงตรงนี้แล้วถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่โล่งเพราะเห็นว่าอย่างไรเสียคงทายได้ชัดขึ้นกว่าตอนแรก ๆ ที่ยังไม่รู่ว่าจะจับตรงไหนมาทาย อีกอย่างหนึ่งก็จะขอรวบยอดมาไว้ตรงนี้ว่า นี่เป็นคำทายคนราศีเมษ มีดาวกระจายอยู่ตามที่เห็น และเป็นคนแก่ เขาจะตายหรือป่วยหนักก็เป็นเรื่องสมควร !

                   ดังนั้นถ้าท่านใดเป็นคนราศีตุลย์หรือราศีเดียวกับชายคนนี้ ก็อย่าไปเครียดกับคำทายของผมจนเกินงาม เพียงระวังไว้บ้าง ทั้งการงาน สุขภาพทั้งของตนเองและคู่ ถ้าคนเกเรก็ระวังย้ายที่อยู่เข้าคุก  ครับ แล้วค่อยพบกันใหม่ครับ