dot
เวปเพื่อนบ้าน
dot
bullethorawej.com
bullettiantek.com
bulletthaihora.com
bulletyahoo.com
bulletGoogle ! Search
dot
ปรมาจารย์ 10 ลัคน์
dot
bulletท่านขุนชอบ รักตะประกร(กลั่น หิมะกลัด)&อาจารย์ อรุณ เทศถมทรัพย์
dot
การทายจร
dot
bulletการทายจร อาทิตย์ ๑
bulletการทายจร จันทร์ ๒
bulletการทายจร อังคาร ๓
bulletการทายจร พุธ ๔
bulletการทายจรพฤหัสบดี ๕
bulletการทายจรดาวศุกร์ ๖
bulletการทายจรดาวเสาร์ ๗
bulletการทายจรราหู ๘
bulletการทายจรเกตุ ๙
bulletการทายจร มฤตยู ๐
dot
ทายจรดวงทักษา
dot
bulletทายจรดวงทักษา
bulletทายจรทักษา คนเกิดวันอาทิตย์
bulletทายจรทักษา คนเกิดวันจันทร์
bulletทายจรทักษา คนเกิดวันอังคาร
bulletทายจรทักษา คนเกิดวันพุธ
bulletทายจรทักษา คนเกิดวันพฤหัสบดี
bulletทายจรทักษา คนเกิดวันศุกร์
bulletทายจรทักษา คนเกิดวันเสาร์
dot
ทายคนราศีต่าง ๆ
dot
bulletทายคนราศีเมษ
bulletทายคนราศีพฤษภ
bulletทายคนราศีเมถุน
bulletทายคนราศีกรกฎ
bulletทายคนราศีสิงห์
bulletทายคนราศีกันย์
bulletทายคนราศีตุลย์
bulletทายคนราศีพิจิก
bulletทายคนราศีธนู
bulletทายคนราศีมังกร
bulletทายคนราศีกุมภ์
bulletทายคนราศีมีน
dot
เกร็ดความรู้เบ็ดเตล็ด
dot
bulletเวลาดวงอาทิตน์ ขึ้น-ตก
bulletเลข 10 ตัวฉบับเร้นลับ (1)
bulletเลข 10 ตัวฉบับเร้นลับ (2)
bulletพฤหัตชาฏก
bulletตฤมศางศ
bulletระยะต่าง ๆ ของดวงจันทร์
bulletดูดวงอินเดีย พลังวัชร์
bulletมรณะองศา (ตาบอด)
bulletฤกษ์ Neemo
bulletฤกษ์ปฐมบท (ตาบอด)
bulletโษฑศวรรค (ตาบอด)
bulletวางดวงฤกษ์ตามเกณฑ์กนกกุญชร
bulletตรวจสอบฤกษ์กนกนารี
bulletฤกษ์.วาร.ดิถี.มหาศูนย์.นวางค์ที่ดี
bulletเกณฑ์จักขุมายา
bulletมือ? โดย......คนกันเอง
bullet"ฤกษ์ผานาที" โดย ณ. เณร
bulletชวน ๘” (ชวน หลีกภัย)โดย..สีดิน
bulletดวงมีดีหลายอย่างเสียอย่างเดียว
bulletผู้มีวาสนาบารมีตามรัฐธรรมนูญ
bulletผู้มีวาสนาบารมีตามรัฐธรรมนูญ (ตอนจบ)
bulletคุณหมอคะ...หนูนอนไม่ค่อยจะหลับ
bulletดาวดี คนไม่ดี มีที่ไหน ?
bulletดวงใครดวงมันแทน...กันไม่ได้
bulletพฤหัสบดี ๕ ไม่ดี
bulletฟ้าส่งมา.....ฟ้าเอาคืน
bulletใคร? อยากเป็นโหร !!!
bulletหลอก-ลวง-พราง
bulletดาวไม่ดี-คนดีมีที่ไหน
bullet“จดหมายเตือนจากพญายม”
bulletโหราสาด(ฉบับพิสดาร)
bulletจันทร์ ๒ จร โดย....ณ.เณร
bulletการหาคู่เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
bulletหวยออกจึงบอกให้
bulletคนหาเงินเก่ง
bulletคนที่ฐานะการเงินเดิมดี
bulletคนที่ได้คู่ดี
bulletคนหาคู่ยาก
bulletคนมีคู่แต่ไม่ชอบทำการบ้าน
bulletคนมีคู่เหมือนได้แก้วสารพัดนึก
bulletคู่สร้างคู่สม
bulletคู่กัด
bulletมีคู่แต่พึ่งไม่ได้
bulletคนมีคู่
bulletคนไม่มีคู่
bulletพบคู่เมื่อไหร่?
bulletเลิกกับคู่เมื่อไหร่?
bulletเพื่อนดีหรือไม่ดี
bulletเพื่อนไม่ดี
bulletเพื่อนไม่ดีไม่ชั่ว
bulletญาติดีหรือไม่ดี
bulletญาติไม่ดีหรือญาติเลว
bulletลูกหลานดีหรือไม่ดี?
bulletการงานดีหรือไม่ดี
bulletงานไม่ดี
bulletHun sen นายกหนุ่มที่สุดในโลก
bulletทักษา-ทักษิณ "กาดำ"เขียน
bulletวันเวลาตาย โดย...เณร อยู่นาน
bulletเมื่อไรจะรวย โดย...สีดิน
bulletทักษิณ-กลับมาอีกหรือไม่?
bulletพระอาทิตย์ ๑ เสด็จข้ามราศี
bulletผมไม่ได้เล่นการเมือง โดย ณ.เณร
bulletหลวงมหาสิทธิโวหาร(สอ เสถบุตร)
bulletฅ. ฅนยุ่งเหยิง
bulletดวงคู่กัด
bulletนักรักนักเลง
bulletเหยื่อมือมีด
bulletคนจะตาย
bulletอาชีพที่ดีที่สุด
bulletสิงห์แม่นปืน
bulletคนจะเกิด
bulletได้งานทำเมื่อไหร่
bulletออกจากงานเมื่อไหร่
bulletเดินทางไปต่างประเทศ
bulletอุบัติเหตุเมื่อไหร่
bulletจะเจ็บป่วยเมื่อไหร่
bulletเมื่อไหร่จะเป็นเจ้าอาวาส
bulletอยู่ดี ๆ ถูกท้าดวล
dot
แลกลิ้งที่นี่ LINK EXCHANGE
dot
bulletแลกลิ้งคลิกที่นี่
bulletข้อสังเกตุฯ ของ... "อายัณโฆษ"
bulletดาวพฤหัสบดี (๕)
bulletลัคนาในราศีเกณฑ์
bulletประเสริฐจริงหรือ?
bulletเป็นชะตาของผู้ขาดอุปการะ
bulletมั่งมีจริงหรือ?
bulletจัตตุสดัยแสนประเสริฐ
bulletดวงชะตาแสนประเสริฐ
bulletยังไม่เคยพบความจริง
bulletทำงานอะไรดี
bulletสมาคมโหราจารย์
bulletเกิดแก่เจ็บตาย
bulletจดหมายเตือนจากพญายม
bulletคนที่เลือกเกิดเองไม่ได้
bulletดอกฟ้ากับสุนัขวัด
bulletหมายเรียกที่ยากจะหลีกเลี่ยง
bulletยังหาชื่อเรื่องไม่ได้
bulletอยู่คานทองซำบายดีอ้าย.
bulletดวงอัครมหาลาภ
bulletนักร้องเก่าแต่ไม่แก่
bulletดวงชะตาที่ไม่รู้จักพอ
bulletสิงห์เหนือ-เสือใต้
bulletสิงห์เหนือ-เสืออิสาน
bulletอุปสรรคการเรียนโหราศาสตร์(1)
bulletอุปสรรคการเรียนโหราศาสตร์(2)
bulletอุปสรรคการเรียนโหราศาสตร์(3)
bulletอุปสรรคการเรียนโหราศาสตร์(4)
bulletสิ้นลายเสือ
bulletสิงห์หน้าหยก
bulletดูดวงฟรี
bulletปาก อตร.
bulletนายบ่อนบอลล์
bulletเลขานายบ่อน
bulletวิจารณ์ดวง-ตามคำขอ
bulletโหรปลาทู
bulletรถป้ายแดงไร้คู่
bulletทายถูกเรื่องแต่ไม่ถูกใจ
bulletการตั้งชื่อหรือการเปลี่ยนชื่อ
bullet78 ชง
bulletเสียทองเท่าหัว
bulletไปที่ชอบ ๆ นะพี่
bulletหญิงขายปืน
bulletยังหาชื่อเรื่องไม่ได้ (2)
bulletทำไมต้องเป็นหนู?
bulletวิศวกรไอสครีม
bulletเดี่ยวการเดินทาง 1-2
bulletเงินอำนาจครอบครัว
bulletปากพาจน
bulletเรื่องไม่เป็นเรื่อง 1
bulletเรื่องไม่เป็นเรื่อง 2
bulletเรื่องไม่เป็นเรื่อง 3
bulletเรื่องไม่เป็นเรื่อง 4
bulletเรื่องไม่เป็นเรื่อง 5
bulletเรื่องไม่เป็นเรื่อง 6
bulletเรื่องไม่เป็นเรื่อง 7
bulletเรื่องไม่เป็นเรื่อง 8
bulletเรื่องไม่เป็นเรื่อง 9
bulletเดี่ยวการเดินทาง 3
bulletเดี่ยวการเดินทาง 4
bullet16 ปีมรณะกรรม อ.อรุณ เทศถมทรัพย์
bulletดีแต่โม้ โดย เณร อยู่นาน
bulletดวงดี ๆ มีให้เช่า
bulletกินกันไม่ลง
bulletมีผัวศรีราชา
bulletคนป่วยง่ายตายยาก
bulletดวงคนจนจน
bulletพรรคอายุยืน
bulletตามหาตำนาน
bulletคนราศีพิจิกปีนี้มีคู่แน่
bulletหนังสืออ่านเล่น
bulletขาขาดไม่ใช่ขาดขา
bulletหมอดูทางนอก vs. หมอดูทางใน
bulletชีวิตแผ่นเสียงตกร่อง
bulletอายุเป็นเพียงตัวเลข
bulletนิทาน-นินทา
bulletใครจะเป็นโหรได้บ้าง?
bulletไปเมืองนอกกันไหมคะ?
bulletเมื่อ ๗๘ ชงคนราศีเมษและราศีตุลย์
bulletหนังสืออ่านเล่น
bullet(หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
bulletน้ำ ผึ้ ง ข ม
bulletผัวนอกเมียใน
bulletดวง four in one
bulletพยากรณ์ดวง ปี 2555 -56
bulletเดี่ยวการเดินทาง
bulletthanthong77@Gmail.com
bulletมีคู่ดีหรือมีคู่ไม่ดี
bulletหญิงวัย 75 หายออกจากบ้าน




ใคร? อยากเป็นโหร !!!

ถ้าอยากเป็นโหรต้องทำดังนี้

โดย....สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน)

 

1. ต้องจำและนับเลข ๑๒๓๔๕๖๗๘๙๐ ได้ขึ้นใจ

2. ต้องจำได้ว่าเลขทั้งหมดนี้เขาเอามาแทนดาว 10 ดวง เริ่มกันที่ ๑ แทนดาวอาทิตย์ ๒ แทนดาวจันทร์ ๓ แทนดาวอังคาร ๔ แทนดาวพุธ ๕ แทนดาวพฤหัสบดี ๖ แทนดาวศุกร์ ๗ แทนดาวเสาร์ ๘ แทนดาวราหู ๙ แทนดาวเกตุ ๐ แทนดาวมฤตยู

3. เมื่อแทนดาวเรียบร้อยแล้วเขาก็กำหนดให้จำง่าย ๆ ว่า ทายยศศักดิ์ทายอาทิตย์ ๑ ทายจริตให้ทายจันทร์ ๒ ทายกล้าแข็งขยันทายอังคาร ๓ ทายอ่อนหวานให้ทายพุธ ๔ ทายปัญญาบริสุทธิ์ทายพฤหัส ๕ ทายกิเลสกำดัดให้ทายศุกร์ ๖ ทายโทษทายทุกข์ให้ทายเสาร์ ๗ ทายมัวเมาให้ทายราหู ๘ ทายอายุยืนให้ทายเกตุ ๙ ทายอาเพททายมฤตยู ๐

4. เมื่อจำได้ว่าดาวอะไรทายอะไร ก็ต้องจำเพิ่มอีกว่าดาว ๑-๗ เป็นดาวคู่ธาตุไฟ ๒-๕ เป็นดาวคู่ธาตุดิน ๓-๘ เป็นดาวคู่ธาตุลม ๔-๖ เป็นดาวคู่ธาตุน้ำ ๙-๐ เป็นดาวไม่มีธาตุ คือกลาง ๆ ตามตำนานเขาจัดให้เป็นวิญญาณธาตุ

5. เมื่อรู้ว่าดาวอะไรเป็นธาตุอะไร ต้องจำอีกว่า ดาวอะไรเป็นดาวที่เป็นคู่มิตรเช่น ๑-๕ ๒-๔ ๖-๓ ๘-๗ เขามีกลอนยกำกับว่า อาทิตย์เป็นมิตรกับครู จันทร์โฉมตรูพุธนงเยาว์ ศุกร์ปากหวานอังคารรับเอา ราหูกับเสาร์เป็นมิตรแก่กัน

6. ธรรมดาเมื่อมีดาวคู่มิตรก็ต้องมีคู่ศัตรูเช่น ๑-๓ ๒-๕ ๖-๗ ๔-๘  นี่คือคู่ศัตรูหลักที่ส่งผลชัดเจนดีเมื่อเอามาทาย

7. นอกจากที่ว่ามาแล้วยังมีดาวคู่สมพลอีก ที่ต้องจำได้ คือ ๑-๖ ๒-๘ ๓-๕ ๔-๗

8. เมื่อรู้เรื่องหรือจำได้มาถึงข้อที่ 7. แล้วก็ยังไม่จบ ต้องรู้ว่าดาวที่เป็นคู่ธาตุนั้นมันช่วยกันเสริมธาตุให้แก่กันและกัน เช่น ๑ กับ ๗ จะเสริมเรื่องชื่อเสียง ๒ กับ ๕ เสริมเรื่องการมีเสน่ห์และวิชาการดี  เรียนเก่ง ๔ กับ ๖ เสริมเรื่องความมีเสน่ห์และเซ็กซี่ด้วย ๓ กับ ๘ เสริมเรื่องความบ้าบิ่น หรือบ้าระห่ำมากกว่าปกติ ดังนี้เป็นต้น

9. สำหรับคู่สมพล คู่มิตร ก็คล้ายกันคือเพิ่มกำลังให้แก่กันและกัน

10. คู่ศัตรูนี่แน่นอนว่าเป็นการทำลายล้างกันให้พังกันไปข้างหนึ่ง จากข้อ 8.9.10. นี่ผมบอกเพียงสังเขปเท่านั้นนะครับ เอาพอเป็นตัวอย่าง ต้องหัดคิดเอาเองบ้าง จึงจะเก่ง

11.ขอสรุปว่าดวงดาวทั้ง 10 ดวงนี้เป็นดาวที่สำคัญมาก มีอิทธิพลต่อชีวิตเรามากที่สุด

12.เมื่อรู้เรื่องดวงดาวแล้ว ก็จะมาถึงเรื่องของโลกที่เราอาศัยอยู่ โลกเราเป็นรูปทรงกลม เราต่างก็ปลูกบ้านเรือนทำมาหากินหลับนอนอยู่บนผิวโลก

13.โลกของเราเคยเห็นบางตำราเขาบอกว่าเป็นดาวดวงหนึ่ง คือดาวสีน้ำเงิน

14.โลกไม่มีใครไปแบ่งออกเป็นกลางวันกลางคืน มันเป็นของมันเอง คือข้างที่หันไปหาพระอาทิตย์เป็นกลางวัน ฝั่งตรงกันข้ามเป็นกลางคืน กลางวันคนและสัตว์ ต้องออกไปทำมาหากิน ส่วนที่เป็นกลางคืนคำมืดก็หลับนอนพักผ่อน สลับกันไปสลับกันมานานแล้ว จะนานสักกี่ปีผมเองก็ไม่ทราบ ไม่อยากจะเดาหรืออวดรู้

15. โลกเรามีการหมุนรอบตัวเองรอบหนึ่ง 24 ชม. เริ่มต้นกันที่ 6.00 น. ของทุกวัน พร้อม ๆ กันมันก็หมุนรอบพระอาทิตย์ไปด้วย 1 รอบใช้เวลาประมาณ 365 วัน จะครบรอบหนึ่งประมาณ วันที่ 13 เมษายนของทุกปี

16.เรื่องของโหราศาสตร์ เบื้องต้นเขาแบ่งโลกออกเป็น 4 ส่วน แล้วก็แบ่งออกเป็น 8 ส่วน แล้วก็เป็น 12 ส่วน แล้วก็เป็น 36 ส่วน แล้วก็เป็น 108 ส่วน แล้วก็แบ่งเป็น 144 ส่วน แล้วก็แบ่งเป็น 360 ส่วน

17. แต่ในที่นี้เราเอาเพียงการแบ่งออกเป็น 8 ส่วน และ 12 ส่วนมาใช้ก่อน เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เป็นหลักพื้นฐานของโหราศาสตร์

18. การแบ่งออกเป็น 8 ส่วนเขาเอามาใช้เป็นดวงทักษา โดยในแต่ละส่วนท่านบูรพาจารย์ได้จัดให้ดาว 8 ดาวเข้าครอบครองเป็นเจ้าของพื้นที่ (ลองเขียนภาพออกมานะครับ จะได้เข้าใจง่าย)

19. เมื่อเขียนภาพออกมาแล้ว ส่วนบนสุด จะเป็นทิศตะวันออก ตรงกันข้ามจะเป็นทิศตะวันตก ขวามือทิศใต้ ซ้ายมือทิศเหนือ นอกจะเป็นทิศเฉียง ลองนับเองบ้าง

20. สำหรับดาวที่เข้าประจำพื้นที่ดังกล่าวมีดังนี้ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ดาว ๑ ตรงกันข้ามกับทิศนี้คือทิศตะวันตกเฉียงใต้ดาว ๗ ทิศตะวันออกตรงดาว ๒ ทิศตรงกันข้าม คือทิศตะวันตก ดาว ๕ ทิศตะวันออกเฉียงใต้ คือดาว ๓ ตรงกันข้าม คือทิศตะวันตกเฉียงเหนือดาว ๘ ทิศใต้ดาว ๔ ทิศตรงกันข้ามดาว ๖ ครบ 8 ทิศพอดี

21.ข้อควรสังเกตุ เพื่อให้จำง่าย ขอให้ท่านลองเขียนภาพขึ้นมา แล้วจะเห็นว่า ทิศตรงคือตะวันออกกับตะวันตก ดาวที่ครอบครองอยู่เป็นดาวธาตุดิน คือ ๒ และ ๕

22. ทิศตรงอีกคู่หนึ่ง คือทิศทิศใต้ และเหนือดาวที่ครอบครองอยู่คือ ๔ และ ๖

23. จะเห็นว่าดาวทั้ง 4 ทิศที่ว่าล้วนเป็นดาวศุภเคราะห์ทั้งนั้น คือ ๒๔๕๖

24. นับวนตามเข็มนาฬิกาจาก ๒๔๕๖ ดาวศุภเคราะห์ 4 ดาวนี้จะถูกกำหนดกำลังแต่ละดาวเอาไว้ เพื่อประโยชน์ในการจัดเป็นดาวคู่สมพลในโอกาสต่อไป โดยจัดให้ดาว ๒ มีกำลัง 15 ดาว ๔ มีกำลัง 17 ดาว ๕ มีกำลัง 19  ดาว ๖ มีกำลัง 21 คือกำลังจะเพิ่มขึ้นทีละ 2 ๆ เสมอ

25. เป็นเรื่องของดาวที่ครอบครองอยู่ในทิศเฉียง คือดาว ๑๓๗๘ เริ่มที่ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือ

26. นับวนตามเข็มนาฬิกาเช่นกัน เริ่มที่ ๑๓๗๘ ดาวทั้ง 4 นี้ถูกแบ่งแยกออกเป็นดาวบาปเคราะห์ จะมีกำลังของแต่ละดาวดังนี้ดาว ๑ กำลัง 6 ดาว ๓ กำลัง 8 ดาว ๗ กำลัง 10 ดาว ๘ กำลัง 12 กำลังประจำดาวจะเพิ่มขึ้นทีละ 2 เช่นเดียวกับดาวศุภเคราะห์ แต่เมื่อนำมารวมกันแล้วน้อยกว่าเท่าตัว

27. ทีนี้ผมจะนำมาสรุปรวมกัน

28. ให้ช่องบนสุดเป็นทิศตะวันออก ตรงกันข้ามเป็นตะวันตก ซ้ายมือสุดเป็นทิศเหนือขวามือเป็นทิศใต้ นอกนั้นเป็นทิศเฉียง

29. ช่องทิศตะวันออกเฉียงเหนือใส่ดาวอาทิตย์ ๑ วนไปทางขวามือช่องที่ 2 ใส่ดาวจันทร์ ๒ ช่องที่ 3 เป็นอังคาร ๓

30. ทีนี้ให้ดูช่องที่ตรงกันข้ามกับอาทิตย์ ๑ ให้ใส่ดาวเสาร์ ๗ คู่ธาตุไฟ

31. ช่องที่ตรงกันข้ามกับดาวจันทร์ ๒ ให้ใส่ดาวพฤหัสบดี ๕ คู่ธาตุดิน

32. ช่องตรงกันข้ามกับอังคาร ๓ ให้ใส่ราหู ๘ คู่ธาตุลม

33. ช่องตรงกันข้ามกับพุธ ๔ ให้ใส่ดาวศุกร์ ๖ คู่ธาตุน้ำ

34. นี่แหละครับคือดวงทักษา จากดวงทักษานี้เราจะได้ดาวที่เป็นคู่ธาตุ ๑๗-๒๕-๓๘-๔๖ ครบสี่คู่

35. ได้คู่สมพล ๑๖-๒๘-๓๕-๔๗

36. ต้องจำให้ได้นะครับ รวมทั้งคาถากำกับ คือ บริวาร-อายุ-เดช-ศรี-มูลละ-อุตสาหะ-มนตรี-กาลกิณี

37. หลักการใช้ดวงทักษา คือ เกิดวันใดให้ใช้ดาวประจำวันเกิดเป็นบริวาร.....เช่นเกิดวันจันทร์ ๒ ก็เป็นบริวาร เกิดวันพฤหัสบดี ๕ เป็นบริวาร ฯลฯ

38.กรุณาอย่าลืมเป็นอันขาดว่าวันราหูไม่มีนะครับพวกนิยมพุธกลางคืนเป็นวันราหูนั่นเพราะยังไม่เข้าใจเรื่องที่มาที่ไปของทักษาดีพอ วันน่ะมันมีเพียง ๗ วันเท่านั้นครับ วันราหูวันราหาผมไม่เคยเห็นใครเขาเรียกกัน

39.ผมว่ามาถึงตรงนี้ถ้าคุณสมองดีก็พอเอามาใช้ทายได้แล้วครับ เรียกว่าทายกันแบบกว้าง ๆ หน่อย คือจับเอากาลีจรปีมาทายนั่นเอง

40. ผมว่าจะมาต่อให้ตั้งนาน ก็ไม่ได้โอกาสสักที เพิ่งมาได้ฤกษ์ดีวันนี้ ที่ว่าฤกษ์ดีนั้นคือตกงานนั่นเอง ผมอยู่กับ union mall มา 3 ปีเต็ม พอดาวพฤหัส ๕ จรเป็นกาลี เขาสั่งให้ย้ายที่ ซึ่งเป็นการย้ายครั้งที่ 5 ภายใน 3 ปี เลยตัดสินใจว่าทำมาหากินอยู่กับบ้าน ที่ร่มเกล้าดีกว่า จะไกลหน่อยก็ชั่งมัน ไม่มีใครไปใช้บริการจะให้ผมกินข้าวคลุกน้ำปลาทุกมือก็ให้มันรู้กันไป เอาล่ะเรามาว่ากันเรื่องของเราต่อ....

41.ข้อ 39 ผมลงท้ายไว้ว่าถ้าจะทายทักษา ให้จับเอากาลีจรปีมาทายเป็นอันดับแรก แล้วกาลีจรปีมันมาอย่างไรล่ะ? ข้อนี้ไม่ยาก สมมุติว่าคุณเกิดวันศูกร์ ดาว ๖ ย่อมใต้องเป็นบริวารเดิม ๑ เป็นดาวอายุเดิม ๒ เป็นดาวเดชเดิม ๓ เป็นดาวศรีเดิม ๔ เป็นดาวมูลละเดิม ๗ เป็นอุตสาหะเดิม ๕ เป็นมนตรีเดิม ๘ เป็นกาลีเดิม จริงไหม?

42. ที่นี้สมมุติอีกว่าคุณกำลังมีอายุย่าง 72 ปี อย่าลืมนะครับ ทายทักษาเขาเอาอายุย่าง

43. การนับหาทักษาจรตามจำนวนอายุย่าง เขานับกันที่ดาว ๖ บริวารเดิม คือ 1 ขวบที่ดาว ๖ อายุ 2 ขวบที่ดาว ๑ อายุ 3 ขวบที่ตากลาง เมื่อตกตากลางให้นับ ๕ เป็นบริวาร อายุ 4 ขวบที่ดาว ๒ อายุ 5 ขวบที่ดาว ๓ อายุ 6 ขวบที่ดาว ๔ อายุ 7 ขวบที่ดาว ๗ อายุ 8 <

44. เมื่อเกิดวันศุกร์ นับจากศุกร์ ๖ อายุจรจะตกที่ ภูมิราหู ๘ ลองนับดูนะครับ อย่าหลับตาเชื่อผมข้างเดียว เดี๋ยวจะพากันเข้าป่า.... เพราะขณะนี้หน่วยความจำของผมเสื่อมไปมาก บางวันลืมแม้กระทั่วตัวเอง....

45. นับคาถาบริวารจรที่ภูมิราหู ๘ ไปใหม่ คือนับบริวารที่เลข ๘ อายุที่เลข ๖ เดชที่ ๑ ศรีที่ ๒ มูลละที่ ๓ อุตสาหะที่ ๔ มนตรีที่ ๗ กาลกิณีที่ ๕

46. วิธีเอาทักษามาทาย แรก ๆ ยังไม่ชำนาญ ก็เอาดาวกาลกิณีจรในปีนั้นมาทาย โดยย้อนกลับไปดูว่าในทักษาเดิมเป็นอะไร

47. ตามที่สมมุติ ให้เขาเกิดวันศุกร์ ๖ และอายุมาตกที่ ๘ เท่ากับ ๕ เดิมที่เคยเป็นมนตรี ตอนนี้มาเป็นกาลกิณีจร

48. ได้ความว่า ขาดคนอุปถัมภ์ หรือคนที่เคยให้ความอุปถัมภ์หยุดให้การช่วยเหลือ   ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้น ก็เลยต้องกลับมาเปิดสำนักงานที่บ้าน ทั้งคนที่มีน้ำใจอย่างดีตายจากไปคนหนึ่ง

49. ถ้าจะหยิบเอาดาวศรีจรมาทาย ก็ทายได้อีก คือคนเกิดวันศุกร์ ๖ ดาวจันทร์เดิม ๒ เป็นเดช ตอนอายุย่าง 72 เป็นศรี

50. เมื่อเดชมาเป็นศรีจรก็เท่ากับ ชื่อเสียงยังดีอยู่ ไม่มีใครมาดูถูกเหยียดหยามให้เสียศักดิ์ศรี

51. พออายุ 72 เต็ม ย่าง 73 ทักษาจรก็จะย้ายไปที่ดาวศุกร์ ๖  นับบริวารจรที่ดาวศุกร์ บริวารเดิมก็คือศุกร์ ๖ เหมือนกัน เพราะเขาเกิดวันศุกร์

52. ทีนี้สนุกล่ะ เพราะกาลกิณีจรกับกาลกิณีเดิมคือราหู ๘ เป็นตัวเดียวกัน ไม่สนุกได้อย่างไร ในเมื่อคนที่ว่าราศีกุมภ์ เป็นเรือนกรรมะของเขา

53. เมื่อดาวเจ้าเรือนกรรมะเดิมที่เป็นกาลีอยู่แล้ว มาเป็นกาลีจรซ้ำอีก เป็นดับเบิ้ลกาลีให้โทษหนักเป็น 2 เท่า แบบนี้ถ้าเป็นคนรับจ้างกินเงินเดือน ย้ายงานหรือออกจากงาน แล้วไม่มีงานทำในปีนั้น นี่โทษ 2 เท่า

54. แต่ที่สมมุติอายุ 72 กำลังจะย่าง 73 เป็นโหรอาชีพ คือเป็นทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เมื่อกรรมะเป็นกาลี 2 เท่าเช่นนี้ ทางแก้ที่ดี คือต้องทำงานที่ชั่วที่สุดเท่าที่จะนึกได้ จึงจะได้เงิน  ไม่งั้นอดตาย

55. นี่เพียงการนำเอาทักษาจรปีมาทาย จะเอาทักษาจรเดือนมาใช้ควบก็ได้ถ้าไม่กลัวสับสน คือเริ่มนับทักษาจรเดือน ที่ทักษาจรปีนั่นเอง โดยเริ่มที่เดือนเกิด

56. ให้นับเอาเองนะครับ ไม่งั้นก็ไม่เป็น อย่าลืมว่าการเรียนโหราศาสตร์ต้องลงมือทำด้วย และต้องมีภาพประกอบ ถ้าเรียนโหราศาสตร์เหมือนท่องบทสวดมนต์ จะไม่สามารถเป็นโหรได้

57. มาถึงตรงนี้ผมขอสรุปอีกครั้งนะครับว่า ดวงทักษา ก็คือดวง 8 ราศีจักร หรือดวง 8 ราศีจักร ก็คือดวงทักษา จะเห็นได้ว่าผังของดวงทักษา จะมีดาวครองครบทุกทิศทั้ง 8 ทิศ

จากดวง 8 ราศีจักรนี้เราลากเส้นในทิศที่เป็นทิศเฉียงออกไป ก็จะเป็นดวง 12 ราศีจักร เพื่อเพิ่มรายละเอียดการทายให้มากขึ้น จึงกำหนดคาถาไว้ 12 ตัว เริ่มจากตนุ-กะดุมภะ-สหัชชะ จนถึงวินาสน์

58. ถ้าจะรวมกัน จากดวงทักษาเราสามารถได้ดาวที่เป็นคู่ธาตุ คู่สมพล ดาวบาปพระเคราะห์และดาวศุภเคราะห์ ดาวประจำเรือนทักษา ดาวประจำทิศ ดาวเสวยฤกษ์ครบหมด

59. อ้อ... ยังมี อักษรประจำดาวอีก แต่ผมจะไม่เอามาบอกทั้งหมด จะบอกเฉพาะคนเกิดวันศุกร์ จะมีอักษร ส ศ ษ  วันอื่นให้หาได้จากตำราทักษาเอาก็แล้วกัน

60. ทีนี้จะมาถึงดวง 12 ราศีจักรบ้าง เมื่อแบ่งโลกออกเป็น 12 ส่วนหรือ 12 ราศีจักร ความกว้างราศีละ 30 องศา

61. ตามตำนานโหราศาสตร์เก่าแก่ บอกว่า “ท่าน” ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน? แบ่งโลกที่เราต่างก็มีบ้านอยู่บนพื้นผิวของมัน  ออกเป็น 12 ส่วนหรือ 12 ราศี ในแต่ละราศีมีความกว้าง 30 องศา 12 ราศีก็เท่ากับ 360 องศา คือรอบโลกพอดี จำไว้นะครับ แล้วหัดเขียนภาพประกอบด้วย จะได้รู้แจ้งเห็นจริงมากขึ้น

62. ราศีบนสุดที่ตรงกับศีรษะ ถูกกำหนดให้เป็นราศีเมษ(0) วนไปทางซ้ายมือ ราศีพฤษภ(1)-ราศีเมถุนหรือมิถุน(2)-ราศีกรกฏ(3)-ราศีสิงห์(4)-ราศีกันย์(5)-ราศีตุลย์(6)-ราศีพิจิก(7)-ราศีธนู(8)-ราศีมังกร(9)-ราศีกุมภ์(10)-และสุดท้ายคือราศีมีน(11)  ข้อนี้สำคัญนะครับ ต้องจำให้ได้ขึ้นใจ

63. ทั้ง 12 ราศีนี้เขาแบ่งออกเป็นราศีชั้น 1-2-3

คือราศี เมษ(0) กรกฏ(3)ตุลย์(6)มังกร(9) เป็นราศีชั้นหนึ่ง

64. ราศีพฤษภ(1) ราศีสิงห์(4) ราศีพิจิก(7) ราศีกุมภ์(10) เป็นราศีชั้น 2

65. ราศีเมถุน(2) ราศีกันย์(5) ราศีธนู(8) ราศีมีน(11) เป็นราศีชั้น 3

66. ราศีทั้ง 12 ราศีนี้ นอกจากแบ่งออกเป็นชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 แล้ว ยังแยกออกเป็นธาตุต่าง ๆ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

67. คือให้นับจากราศีเมษ(0) ที่จุด 12 นาฬิกา ทวนเข็มนาฬิกา เป็นธาตุไฟ ราศีพฤษภ(1)เป็นราศีธาตุดิน ราศีเมถุน(2) เป็นราศีธาตุลม ราศีกรกฏ(3)เป็นราศีธาตุน้ำ ราศีสิงห์(4) เป็นราศีธาตุไฟ ราศีกันย์(5)เป็นราศีธาตุดิน ราศีตุลย์(6)เป็นราศีธาตุลม ราศีพิจิก(7)เป็นราศีธาตุน้ำ ราศีธนู(8)เป็นราศีธาตุไฟ ราศีมังกร(9)เป็นราศีธาตุดิน ราศีกุมภ์(10) เป็นราศีธาตุลม ราศีมีน(11)เป็นราศีธาตุน้ำ

 

68. คือธาตุละ 3 ราศีนะครับ แล้วโปรดจำไว้ให้ขึ้นใจ หัดนับทุกวันก่อนนอนก็จำได้เอง คือ เมษ-สิงห์-ธนู ไฟ/พฤษภ-กันย์-มังกร ดิน/เมถุน-ตุลย์-กุมภ์ ลม/กรกฏ พิจิก มีน น้ำ

69. ราศีทั้ง 12 นี้ นอกจากแบ่งออกเป็นธาตุต่าง ๆ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้ว ยังแต่ละราศีมีสัญลักษณ์ประจำด้วย ดังนี้ ราศีเมษ-แกะ/ราศีพฤษภ วัว/ราศีเมถุน คนคู่/ราศีกรกฏ ปู/ราศีสิงห์ สิงห์โต/ราศีกันย์ หญิงสาว/ราศีตุลย์ คันชั่ง/ราศีพิจิกแมลงป่อง/ราศีธนู คนถือคันธนู/ราศีมังกร ม้ามังกร/ราศีกุมภ์ คนแบกหม้อน้ำ/ราศีมีน ปลาคู่

70. ราศี 12 ราศีดังที่กล่าวมา ยังมีการแบ่งออกเป็นส่วนย่อยอีกมาก อย่างเช่นแบ่งออกเป็น เพศหญิง-ชาย คือราศีเมษเป็นราศีเพศชาย ราศีพฤษภเป็นราศีเพศหญิง สลับกันไปจนถึงราศีมีน ซึ่งก็ไม่ยากในการจะจำ

71. ที่สำคัญ ในการนำมาใช้ทางการพยากรณ์ คือการแบ่ง แต่ละราศีออกเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน เรียกว่า “ตรียางค์” มีความกว้างตรียางค์ละ 10 องศา

72. ถ้าแบ่งแต่ละราศีออกเป็น 9 ส่วน เรียกว่า “นวางค์”  มีความกว้างนวางค์ละ 3 องศา 20 ลิปดา

73. ความจริงยังมีแบ่งเล็กลงไปอีกที่เขาเรียกว่า “ทวาทศศะ” “ตฤมศศะ” เขาบอกว่าเอาไว้ทายฝาแฝดหรือคู่แฝดนี่แหละ แต่ที่ผ่านมาผมไม่ค่อยได้ใช้ จึงยอมโง่ ไม่ยอมศึกษา

74. เรื่องของ 12 ราศีจักรตั้งแต่ข้อ 60 เป็นต้นมา จนถึงข้อนี้ ท่านเริ่มหูตาสว่างขึ้นมาหรือยังครับ ว่าโครงสร้างแรกของการพยากรณ์ หรือโครงสร้างแรกของวิชาโหราศาสตร์  คือการแบ่งโลกที่เราต่างถือโฉนดกันคนละใบ ออกเป็นส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ 8 แล้วมา 12 แล้วมา 36 แล้วมา 108  ฯลฯ จุดประสงค์ เพียงเพื่อให้รู้ว่า ณ วันเดือนปีและเวลาเกิดของคุณ ๆ อยู่ส่วนไหนของโลก กี่องศา กี่ลิปดา?

75. ยังครับ ยังไม่จบนี้ นี่มันเพียงเริ่มต้นโหราศาสตร์  ต้องมีต่ออีกหลาย 100 ข้อ หรือบางทีอาจจะถึง 1000 ข้อก็ได้ แต่จะอย่างไรก็ตาม ท่านต้องทำใจไว้ล่วงหน้าว่าจะไปได้สักเท่าไรก็ช่าง ผมตายเมื่อไร ถือว่าจบเมื่อนั้น

76. ขอย้อนกลับมาที่ข้อ 1. ที่ว่ากันถึงดาว ๑๒๓๔๕๖๗๘๙๐ คือดาว อาทิตย์/จันทร์/อังคาร/พุธ/พฤหัสบดี/ศุกร์/เสาร์/ราหู/เกตุ/มฤตยู

77. ดาว 10 ตัวหรือ 10 ดาวนี้มีบทบาทสำคัญมากต่อการทายหรือพยากรณ์ ถ้าคุณเอา 10 ดาวนี้มาทายได้คล่องแคล่ว ก็จะเป็น “โหร” ได้โดยไม่ยาก บางคนอุตริ ดาว 10 ดาวยังทายไม่ถูก กลับหันไปเอาดาวอะไรต่อมิอะไรมาทายวุ่นกันไปหมด

78. ในพื้นเบื้องต้น ดาวอะไร ทายเรื่องอะไรตามข้อ 3. ท่านต้องจำได้จนเข้ากระดูกดำ ไม่งั้นไปไม่รอด ศิษย์ผมหลายคนละเลย เห็นว่ามันง่ายเกินหรืออย่างไรก็ไม่รู้ พอผมให้ท่องให้ฟังกลับท่องไม่ได้

79. ตามข้อ 18. ดาว 10 ดาวดังกล่าวเข้าครองในดวง 8 ราศีจักร หรือดวงทักษาเพียง 8 ดาว เหลือ เกตุ ๙ กับมฤตยู ๐ เพราะ 2 ดาวนี้เป็นวิญญาณธาตุ เร่ร่อนไปไม่มีบ้านเรือนเป็นของตนเอง คอยแต่จะอาศัยผู้อื่นอยู่

80. ในดวง 12 ราศีจักรก็เหมือนกัน เกตุ ๙ และมฤตยู ๐ ถูกทอดทิ้งตามเคยเพราะเหตุเดียวกัน  แต่จัดให้ ๓ ครองราศีเมษ ๖ ครองราศีพฤษภ ๔ ครองราศีเมถุน ๒ ครองราศีกรกฏ ๑ ครองราศีสิงห์ ๔ ครองราศีกันย์  ๖ ครองราศีตุลย์ ๓ ครองราศีพิจิก ๕ ครองราศีธนู ๗ ครองราศีมังกร ๘ ครองราศีกุมภ์(บ้านเดิมของ ๗) ๕ ครองราศีมีน จะเห็นได้ว่า ๓ ๔ ๕ ๖ ครองกันคนละ 2 ราศี หรือจะเรียกว่ามีบ้านคนละ 2 หลังก็ได้

81. เขาว่า ใครที่ไหนผมก็ไม่รู้  ว่าที่มาที่ไปของการมีบ้านหรือมีเรือน 2 เรือน ของดาว ๓ ๔ ๕ ๖ นี้ โลกของเรามีกลางวันกลางคืน คือแบ่งจากต้นราศีสิงห์ไปสุดปลายราศีมังกรจำนวน 6 ราศี เป็นราศีภาคกลางวัน

82. จาก ต้นราศีกุมภ์ ไปจนสุดราศีกรกฏ เป็นภาคกลางคืน ซึ่งมีฝ่ายละ 6 ราศีเท่ากัน

83. ราศีภาคกลางวันมีพระอาทิตย์ ๑ เป็นจอมราชาครองราศีสิงห์ จากนั้น ๔๖๓๕๗ เข้าครองเรียงกันไป

84. ราศีภาคกลางคืนมีพระจันทร์ ๒ เป็นราชินีครองราศีกรกฏ จากนั้นให้นับตามเข็มนาฬิกา ๔๖๓๕๘(แทน ๗) เข้าครองเรียงกันไป

85. ถ้าท่านมีดินสอ กระดาษอยู่ในมือ  ลองเขียนภาพประกอบดู จะเห็นว่าผมไม่ได้มุสาท่านเลย ผมจำและใช้อย่างนี้มานาน

86. 12 ราศีจักร เมื่อจัดดาวเข้าครอบครองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านนับกันเป็นเรือน ๆ ที่ 1-2-3-4-5-6-7-8-9-10-11-12

87. กรุณาจำไว้นะครับว่า “ ลัคนา” ของท่าน หรือ “ตนุเศษ” (หลังจากผูกดวงแล้ว)อยู่หรือสถิตราศีใด นับตรงนั้นเป็นเรือนที่ 1 ทวนเข็มนาฬิกาไปเรื่อย ๆ ไปจนถึงเรือนที่ 12

88. ยกตัวอย่างให้ก็ได้ว่า ถ้าท่านมี “ลัคนา” หรือ “ตนุเศษ” สถิตราศีตุลย์ ให้นับที่ราศีตุลย์เป็นเรือนที่ 1 ราศีกันย์ราศีกันย์จะเป็นเรือนที่ 12

89. ดวง 12 ราศีจักร เมื่อมีดาวเข้าครอบครองเรียบร้อยแล้ว เขานิยมเรียกกันว่าดาวเจ้าเรือน หรือดวงเกษตร ต้องจำให้ได้ขึ้นใจนะครับ เพราะดวงเกษตรเป็นหลักของโหราศาสตร์ที่สำคัญมาก

90. 12 ราศีที่มีดาวครองครบแล้ว เวลาจะทายหรือพยากรณ์ เขามีคาถากำกับไว้ทายเป็นเรื่อง ๆ ไป

91. คาถาเรียงกันไปตามลำดับดังนี้คือ 1.ตนุ 2.กะดุมพะ 3.สหัชชะ 4.พันธุ 5.ปุตตะ 6.อริ 7.ปัตนิ 8.มรณะ 9.ศุภะ 10.กรรมะ 11.ลาภะ 12.วินาส

92. คาถาทั้ง 12 คาถานี้แยกทายตัวใครตัวมัน เฉพาะเจาะจงกันเลย คือ ตนุทายตัวตนของเจ้าชะตา/กะดุมพะทายการเงิน/สหัชชะทายเพื่อน/พันธุทายญาติพี่น้อง/ปุตตะทายบุตรหลาน/อริทายศัตรู อุปสรรค/ปัตนิทายคู่ครองหรือหุ้นส่วน/มรณะทายป่วยไข้ ความตาย/ศุภะทายงานในบ้าน ความดีงาม รุ่งเรือง/กรรมะทายงานหลัก/ลาภะทายโชคลาภการงาน/วินาสทายการจากกัน ไม่อยู่ด้วยกัน สูญเสียไป นี่ผมเอากันโดยย่อนะครับ รายละเอียดมีมากมายเหลือคณานับ

93. เอาตัวอย่างมาให้เห็นกันชัด ๆ เพื่อแก้ความสับสนดังนี้ เช่น “ลัคนา” หรือ  “ตนุเศษ” สถิตราศีตุลย์ ดาวเจ้าเรือนตนุคือ ๖ จากนั้นนับทวนเข็มนาฬิกาเรียงกันไปตามลำดับจะเป็น ๓๕๗๘๕๓๖๔๒๑๔

94. ดาวเจ้าเรือนเหล่านี้แหละครับที่มีบทบาทสูงในเวลาทาย แต่ก็ทายผสมไปกับหน้าที่ของแต่ละดาวในข้อ 3 และต้องไม่ลืมเอาดวงทักษาที่ได้ผ่านมาในตอนต้นมาร่วมวิเคราะห์ด้วย

95. แต่ก่อนจะถึงการทาย ต้องเรียนผูกดวงกันก่อนนะครับ การผูกดวงคืออะไร? ผมขอบอกอย่างง่าย ๆ ว่า คือการหาจุดที่ท่านอยู่บนโลกนี้นั่นเอง จะอยู่ราศีไหน?   กี่องศา กี่ลิปดา เกาะ “นวางค์”  “ตรียางค์” “ฤกษ์” อะไร? ก็สุดแต่วันเดือนปีเวลาเกิดของแต่ละท่าน

 

96. การผูกดวงมีปัจจัยหลายอย่าง อย่างแรกต้องมี "คน" ที่จะผูกดวง แมวและสุนัข ก็เคยมีคนผูกดวงให้มาแล้ว แต่ผมไม่นิยม ถัดไปก็วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด จังหวัดที่เกิด ปูมโหร หรือปฏิทินดาราศาตร์ แผ่นหมุนหาลัคนา หรือโปรแกรมโหร

97. เรื่องของเวลาที่จะนำมาผูกดวงมีอยู 2 ชนิด คือเวลาอาทิตย์อุทัยหรืออาทิตย์ขึ้นในวันที่เจ้าชะตาเกิด และเวลาตกฟากหรือเวลาเกิด

98. จะว่ากันด้วยเรื่องเวลาอาทิตย์อุทัยหรือเวลาอาทิตย์ขึ้นในวันเกิดกันก่อน เรื่องนี้มีการแตกแยกความคิดกันออกเป็น 2 ฝ่าย ๆ หนึ่งใช้วเลาอาทิตย์อุทัยปานกลาง คือถือเอา 06.00 น.เป็นจุดเริ่มต้น เพราะถือกันว่า ณ เวลานี้คือเวลาที่ราศีของโลกกับราศีของจักรวาลตรงกัน คือเส้นกั้นราศีเมษราศีมีนของโลก จะทับกันเป็นแนวเดียวกับเส้นกั้นราศีเมษราศีมีนของท้องฟ้าหรือของจักรวาล จึงเอาจุดนี้มาเป็นจุดเริ่มต้น

99. อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่ามันไม่ถูกต้องเพราะอาทิตย์อุทัยหรืออาทิตย์ขึ้นจริงในแต่ละวันไม่ตรงกัน ช้ากว่า 06.00 บ้าง เร็วกว่า 06.00 บ้าง ผมเคยถามว่าถ้าบางประเทศที่อาทิตย์ค้างฟ้าล่ะ เอาเวลาอะไรมาเป็นจุดเริ่มต้น? เมื่อเป็นดังนี้ผมก็ยึดเอาเวลาปานกลางเป็นหลัก ไปขัดคอเขาไม่ดี ขอให้ทายถูกก็พอใจแล้ว

เคยมีคนแย้งเหมือนกันว่าถ้าไม่มีนาฬิกาล่ะ เช่นยุคโบราณ ถ้ายุคนั้นก็ใช้เห็นลายมือมาวัดกัน แต่ยุคนี้คนส่วนใหญ่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเวลานาฬิกา ส่วนคนที่ใช้เวลาสว่างช้าหรือมืดเร็วมีบ้างเป็นส่วนน้อย

100. เวลาอีกอย่างหนึ่งคือ"เวลาเกิด"หรือที่โบราณเรียกว่าเวลาตกฟาก ตัวนี้จะเป็นตัวกำหนดว่าเมื่อโลกหมุนไป ณ เวลาเกิดนั้น ราศีของโลก 12 ราศีตรงกับดาวอะไรในท้องฟ้า โดยถือว่าถ้าดาวอาทิตย์ ๑ ตรงกับราศีใดของโลก คนนั้นจะมีลัคนาสถิตราศีนั้น เพราะอาทิตย์ ๑ เป็นดาวประธานของดาวทั้งปวง นอกนั้นเป็นดาวบริวาร ไม่มีแสงสว่างหรือพลังงานอะไรเป็นของตนเอง

101. ตามกฏของโหร เขาบอกว่าถ้าคนที่มาหาให้พยากรณ์ มีเวลาเกิด ให้เอาเวลาเกิดตั้งหักลบด้วยเวลาท้องถิ่นเสียก่อน แล้วจึงเอาเวลาที่เหลือไปหาลัคนา

102. ถ้าเขาไม่มีเวลาเกิด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหักได้อย่างไร แต่สำหรับผมแก้ปัญหาด้วยการเอาเวลาท้องถิ่นไปบวกเวลาอาทิตย์อุทัยปานกลางคือ บวก 06.00 น. แล้วจึงหาลัคนาไปตามเวลาประมาณการนั้น โดยใช้นวางค์เข้ามาช่วย ให้ลัคนาเขาเกาะนวางค์ที่ตรงกับรูปร่างหน้าตาผิวพรรณ

103. วิธีการผูกดวงในอันดับแรกทำดังนี้ คือเมื่อได้วันเดือนปีเวลาเกิดแล้ว ให้เปิดดูปฏิทินดาราศาสตร์ ดูว่าดาวในวันเกิดของเขาอันได้แก่ดาว  ๑๒๓๔๕๖๗๘๙๐ สถิตราศีใด องศาลิบดาเท่าใด? ให้คัดลอกรายละเอียดดังว่านี้มาใส่ในสมุด หรือกระดานชะนวนที่คุณเตรียมไว้

104. ดวงตัวอย่างอันดับ 1 สมมุติว่าเขาเกิดในวันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม 2552 เวลา 09.18 น. จังหวัดกรุงเทพฯ

105. ปฏิทินตามข้อ 104 บอกพิกัดดาวเมื่อ 24.00 น.ไว้ดังนี้

อ.(8)17.9

จ.(10)18.11

ภ.(8)10.50

ว.(9)1.26

ช.(9)1.26

ศ.(10)2.47

ส.(4)25.11

ร.(9)16.15

ก.(1)23.33

ม.(10)2.5

หมายถึงในวันที่ 1 มกราคม 2522  ณ เวลา 24.00 น.อาทิตย์ สถิตราศีธนู 17 องศา 9 ลิปดา ดาวอื่น ๆ ก็อ่านในทำนองเดียวกัน

106. อีกอย่างหนึ่งที่ต้องทราบคือ อันโตนาทีประจำแต่ละราศี ขออธิบายนิดหนึ่งนะครับว่า คำว่าอันโตนาทีนี้เป็นเรื่องของภาษาที่ผมเรียกจนติดปาก ความจริงก็คือนาทีนาฬิกานั่นเอง ในราศีเมษจะมีอยู่ 120 นาที พฤษภ 96 นาที เมถุน 72 นาที กรกฎ 120 นาที สิงห์ 144 นาที กันย์ 168 นาที ตุลย์ 168 นาที พิจิก 144 นาที ธนู 120 นาที มังกร 72 นาที กุมภ์ 96 นาที มีน 120 นาที ตรงนี้ต้องจำให้ได้นะครับ

107.ผมขออธิบายว่า จำนวนอันโตนาทีหรือนาทีดังกล่าว ของแต่ละราศี หมายถึงการหมุนของโลกที่หมุนรอบตัวเอง จะหมุนจากจุด ต้นราศีเมษ 0.00 องศา ไปจนสุดปลายราศีเมษ คือ 30.00 องศา ใช้เวลา 120 นาที หรือ 2 ชม.จากนั้นก็จะเริ่มที่ต้นราศีถัดไป จนครบ 12 ราศี

108. ทีนี้ผมจะนำท่านเข้าสู่บันไดอีกขั้นหนึ่ง คือการหาลัคนา ในที่นี้เราหาลัคนาของคนที่สมมุติขึ้นกันก่อน แล้วต่อไปท่านก็หาลัคนาของตนเองได้โดยไม่ยาก

109.น่าจะยังมีคนสงสัยว่า "ลัคนา" คืออะไร? ทำไมต้องหา ? คำตอบอย่างรวบรัดคือ หาตำแหน่งตัวตนของเรา ว่าอยู่ตรงไหนบนโลกใบนี้ จะได้ถือเป็นจุดการพยากรณ์ โดยยึดเอาวันเดือนปีเกิดและเวลาเกิดมาคำนวณกัน ตามแบบที่ท่านโหรแต่โบราณวางหลักไว้

110.ทีนี้ขอย้อนกลับไปเริ่มที่ข้อ 60 ที่ผ่านมา ในเรื่องของการแบ่งโลกออกเป็น 12 ราศี ความกว้างราศีละ 30  องศา......

111.วิธีหาลัคนา เบื้องต้นให้ดูว่า อาทิตย์ ๑ สถิตราศี 8 ก็คือราศีธนู 17.9 ในที่นี้เพื่อให้ง่ายขึ้น ตัด เศษ 9 ลิปดาทิ้งก่อน เพราะมีค่าเพียงนิดเดียว

112. ให้ถือว่าอาทิตย์ ๑ โคจรหรือเดินอยู่ในราศีธนูที่ 17 องศา แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าแต่ละราศีมี 30 องศา ดังนั้นเมื่ออาทิตย์ ๑ เดินมาแล้ว 17 องศา ก็ต้องเหลืออีก 13 องศาจึงจะสุดราศีธนู จริงไหม?

113. ในราศีธนูมีความกว้าง 30 องศา มีอันโตนาทีหรือนาที 120 นาที นั่นคือ 1 องศา อาทิตย์ ๑ จะใช้เวาลาในการเดินหรือโคจร 4 นาที

114. ถ้า 13 องศาล่ะ จะเท่ากับกี่นาที ก็เอา 13 ตั้ง คูณด้วย 4 จะได้เท่ากับ 52 นาที นั่นหมายถึงว่าอาทิตย์ ๑ ต้องเดินหรือโคจร 13 องศา ต้องใช้เวลา 52 นาที

115. แต่การผูกดวงเราใช้อาทิตย์ ๑ อุทัยหรืออาทิตย์ขึ้นในแต่ละวันที่เวลา 06.00 น. ให้เอา 52 นาทีมาบวก 06.00 เพื่อให้เป็นเวลานาฬิกา ก็จะได้ 06.52 น.

116. เมื่อเจ้าชะตาที่สมมุติเกิดที่กรุงเทพฯ จังหวัดที่มีเวลาท้องถิ่น 18 นาที ก็ต้องเอา 18 นาทีมาบวกด้วย จึงจะเป็นเวลาอาทิตย์ ๑ อุทัยหรืออาทิตย์ขึ้นที่กรุงเทพฯอย่างแท้จริง

117. ทางหลักโหรถือว่าอาทิตย์ ๑ โคจรหรือเดินสุดราศีธนูที่เวลา  07.10 น.

118. เมื่อสุดราศีธนู ก็ต้องเข้าราศีมังกร ก็ต้องเอาอันโตนาทีหรือ 72 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง 12 นาทีมาบวกต่อ เพื่อให้รู้ว่าสุดราศีมังกรเมื่อเวลาเท่าไร ก็จะได้ 08.22 น. นั่นคืออาทิตย์ ๑ เดินหรือโคจรสุดราศีมังกรที่เวลา 08.22 น.

119. เมื่อสุดราศีมังกรก็ย่อมต้องเข้าราศีกุมภ์ ให้เอานาทีของราศีกุมภ์ซึ่งมีอยู่ 96 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง 36 นาทีมาบวกอีก ก็จะได้สุดราศีกุมภ์ที่เวลา 09.58 น.

120. แต่เจ้าชะตาที่สมมุติเกิดเวลา 09.18 น. ดังนั้นลัคนาของเขาจึงยังอยู่ในราศีกุมภ์ เพราะสุดราศีที่เวลา 09.58 น. สำหรับการหาลัคนาของดาวอื่นก็มีวิธีทำเหมือนกันทุกประการ เฉพาะเกตุ ๙ และราหู ๘ เวลาบวกต้องย้อนกลับนะครับ ไม่งั้นผิดแน่ เพราะสองดาวนี้เดินย้อนศร สำหรับดาวจันทร์ ๒ เป็นดาวเดินเร็วต้องหาสมผุสหรือองศาลิปดา ณ เวลาเกิดก่อน อย่าเอาที่เวลา 24.00 น.

121. ทีนี้จะแสดงการหาลัคนาของจันทร์ ๒ ให้ดูเป็นตัวอย่าง เบื้องต้นให้หาสมผุสหรือหาองศาลิปดาของจันทร์ ๒ ณ เวลาเกิดก่อน ให้ทำดังนี้  ตามปฏิทินดาราศาสตร์ จันทร์ ๒ ในวันเกิดสถิตราศี กุมภ์ 18 องศา 11 ลิปดา แต่ข้อมูลนี้ทางเจ้าของปฏิทิน คืออาจารย์ทองเจือ อ่างแก้ว ท่านคำนวณไว้ที่เวลา 24.00 น. เมื่อเขาเกิด 09.18 น. เท่ากับว่าเขาเกิดก่อน 24.00 น. ดังนั้นให้เอา 24.00 ตั้ง ลบด้วย 09.00(ตัดนาทีออกเพื่อจะได้ง่ายขึ้น)ก็จะได้เท่ากับ 15 ชั่วโมง คือเกิดก่อน 24.00 น. 15 ชม.นั่นเอง

122. อัตราการโคจรหรือความเร็วที่จันทร์ ๒ เดิน 2 ชม.ต่อ 1 องศา เมื่อ 15 ชม. ก็จะเดิน 7 องศากับอีก 30 ลิปดา (คิดตามมาตราดังนี้ 1 ราศี =30 องศา 1 องศา=60 ลิปดา 1ลิปดา=60 ฟิลิปดา)

123. ให้เอา 7 องศา 30 ลิปดา ไปลบออกจาก 18 องศา 11 ลิปดา จะเหลือ 10 องศา 41 ลิปดา

124. นั่นเท่ากับว่า ณ เวลาที่เขาเกิดจันทร์ ๒ อยู่ในราศีกุมภ์เพียง 10 องศา 41 ลิปดา เท่านั้น ไม่ใช่ 18 องศา 11  ลิปดา

125. ในราศีกุมภ์มีอันโตนาทีหรือนาทีอยู่ 96 นาที และความกว้างของราศีก็เท่ากับราศีอื่น ๆ คือ 30 องศา ดังนั้นต้องหาค่าเฉลี่ยด้วยการเอา 30 ไปหาร 96 จะได้เท่ากับ 3 นาที 12  วินาที ดังนั้นเมื่อเอาไปคูณกับ 11 องศา(ปัดเศษขึ้นเพราะเกินครึ่งเพื่อสดวกในการคิด) จะได้เท่ากับ 35 นาที 12 วินาที

126. เอาเวลาอาทิตย์อุทัย 06.00 มาบวก จะได้เท่ากับ 06.35.12 เวลานี้คือเวลาที่จันทร์ ๒ โคจรสุดราศีกุมภ์ หรือจะเรียกว่าโลกหมุนให้จันทร์ ๒ สุดราศีกุมภ์ที่เวลานี้

127. เมื่อจันทร์ ๒ สุดราศีกุมภ์ที่เวลา 06.35.12 น.ให้เอาอันโตนาทีราศีมีน ซึ่งมีอยู่ 120 น. ทำให้เป็น ชม. จะได้เท่ากับ 2 ชม. มาบวก ก็จะได้จันทร์ ๒ โคจรสุดราศีมีนที่เวลา 08.35.12 น. ให้เอาอันโตนาทีประจำราศีเมษ ซึ่งมีอยู่ 120 น. ทำให้เป็น ชม. ก็ได้เท่ากับ 2 ชม. มาบวกต่อ  ก็จะได้เท่ากับ 10.35.12 น. เมื่อเขาเกิดเวลา 9.18 น. ก็เท่ากับลัคนาจันทร์ ๒ ของเขาอยู่ในราศีเมษ ใช่ไหมครับ? อย่าอ่านอย่างเดียวนะครับ ต้องคิดตามไปด้วย คิดไปทีละขั้นตอน

128. เมื่อหาลัคนาของจันทร์ ๒ แล้วให้หาลัคนาของอังคาร ๓๔๕๖๗๘๙๐ ต่อนะครับ ทำแบบเดียวกันทุกดาว เว้นราหู ๘ และ เกตุ ๙ ต้องถอยหลัง คือกลับกับดาวอื่นนั่นเอง

129. ผมจะทำให้ดูเฉพาะราหู ๘ นะครับ นอกนั้นคุณต้องทำเอาเอง เพื่อความเข้าใจ

130. ราหู ๘ ในวันเกิด สถิตราศี (9)16.15 ราศี ที่ 9 คือราศีมังกร ซึ่งก็จะมีจำนวนองศาลิปดาเท่ากับราศีอื่น คือ 30 องศา แต่ได้โปรดเข้าใจว่าการเดินหรือโคจรของราหู ๘ เขาถอยหลังนะครับ ดังนั้นเมื่อถอยหลัง จำนวนองศาลิปดา ต้องลดลง คือ จะเดินจาก 30 องศาของราศีมังกร มาที่ 29-28-27-26-25-24-23-22-21-19-20-19-18-17-16-15-14-13-12-11-10-9-8-7-6-5-4-3-2-1-0

131. เมื่อราหูโคจรมาแล้ว 16.15 องศา นั่นคือให้ตั้ง 30 องศาลบด้วย 16.15 องศา จะเหลือราหู ๘ ต้องโคจรอีก  13.45 องศาจึงจะไอยู่ที่ 0.00 องศาของราศีมังกร

132. 13.45 องศาปัดให้เป็น 14.00 องศา เพื่อจะได้ง่ายในการคำณวนต่อไป

133. ทีนี้เราต้องมาคิดกันว่า ในราศีมังกร ก็เหมือนกับราศีอื่นคือมีองศาอยู่ 30 องศา อันโตนาทีมีอยู่ 72 เราต้องทราบก่อนว่า การโจรของราหู หรือที่จริงคือโลกหมุน ถ้า 1 องศาจะใช้เวลาเท่าไร

134. ผลออกมา 2 นาที 4 วินาที ตัดวินาทีออก เพื่อให้คำณวนง่ายขึ้น ถ้า 14 องศาก็จะเท่ากับต้องใช้เวลา 28 นาที เอา 06.00 มาบวก จะได้เท่ากับ 06.28 บวกเวลาท้องถิ่น กทม. 18 เป็น 06.46 น. นั่นคือราหู ๘ จะโคจรไปที่ 0 องศาของราศีมังกร

135. ทีให้เอา อันโนทีของราศี ธนู 120 นาที ซึ่งก็เท่ากับ 2 ชม. มาบวก จะได้ 08.46 น. นั่นคือราหู ๘ โคจรไปอยู่ที่ 0 องศาของราศีธนูเมื่อเวลา 08.46 น.

136. ให้เอาอันโตนาทีของราศีพิจิก ซึ่งมีอยู่ 144 น. คือ 2 ชม. 24 นาที จะได้เท่ากับ 11.10 น. ราหู ๘ จึงจะไปอยู่ที่ 0 องศาของราศีพิจิก  ดังนั้นเมื่อเขาเกิด 9.00 ราหู ๘ หรือลัคนาราหู ๘ ก็จะสถิตราศีพิจิกนั่นเอง

137. เมื่อทำดวงออกมาทั้งหมดแล้ว ๑๓ สถิตราศีกุมภ์ ๔๕๖ สถิตราศีมีน ๒๐๙ สถิตราศีเมษ ๗ สถิตราศีกันย์ ๘ สถิตราศีพิจิก (เจ้าชะตาเกิดวันพฤหัสบดี ที่ 1 มกราคม 2552 เวลา 9.18 น. กรุงเทพฯ)

138. ผมได้ค้างเรื่องนี้เอาไว้นานมาก จนจำไม่ได้ว่ากี่เดือน วันนี้มาเปิดดูเพิ่งกระดืบไปได้แค่การผูกดวงจึงขอต่อยอดกันให้จบ ตามที่ตั้งใจเอาไว้นะครับ

139. เมื่อผูกดวงออกมาเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่จะหลับตาทายได้เลยเหมือนคนมักง่ายทั้งหลาย 10ลัคน์นี่เขามีหลักของเขามาตั้งนมนานแล้ว   ว่าเมื่อผูกดวงเรียบร้อย ต้องหาตนุเศษให้ได้เสียก่อน เพราะตนุเศษมีความสำคัญมาก เกือบจะมากกว่าลัคนาเสียด้วยซ้ำ

140. การหาตนุเศษของ 10ลัคน์ก็เหมือนกับการหาตนุเศษของดวงทั่วไป คือเริ่มต้นกันที่ลัคนาสถิตราศีใด ราศีนั้นมีดาวอะไรเป็นดาวเจ้าเรือน อย่างดวงนี้ มีดาวราหู ๘ เป็นดาวเจ้าเรือน ให้นับจากราศีที่ลัคนาสถิต คือนับที่ราศีกุมภ์ 1 นับ 2 ที่ราศีมังกร นับ 3 ที่ราศีธนู นับ 4 ที่ราศีพิจิก พบราหู ๘ อยู่ที่นี่ ก็ถือว่านับไปได้  4 ใช่ไหมครับ? ลองหัดนับไปด้วยครับอย่าอ่านลวก ๆ (ที่ต้องนับแบบนี้คือนับไปตามทิศทางการโคจรของราหู ๘ ครับ)

141. ทีนี้นับต่ออีก ราหู ๘ อยู่ในราศีพิจิก ดาวเจ้าเรือนคือ อังคาร ๓ ให้นับไปหาอังคาร ๓ นับที่ราศีพิจิกเป็น 1 นับ 2 ที่ราศีธนู นับ 3 ที่ราศีมังกร นับ 4 ที่ราศีกุมภ์ เท่ากับนับได้ 4 เช่นกัน (นับตามทิศทางการโคจรของดาว อังคาร ๓)

142. 4x4=16 หารด้วย 7 เหลือเศษ 2 ดังนั้นจันทร์ ๒ ที่อยู่ในราศีเมษต้องเป็นตนุเศษ

142. ขอสรุปการหาตนุเศษไว้ตรงนี้ว่า ไม่ว่าจะนับไปหาดาวเจ้าเรือนดาวใด ต้องนับไปในทิศทางที่ดาวนั้น ๆ โคจรเสมอ

143. ทีนี้มาถึงเรื่องสำคัญในการทาย การทายดวง 10 ลัคน์นี่เขามีคาถาเป็นตัวกำกับ ถ้าใครจำคาถาไม่ได้ก็ควรเลิกคิดเป็นโหรได้ คาถามีว่า "ตนุ-กะดุมภะ-สหัชชะ-พันธุ-ปุตตะ-อริ-ปัตตานิ-มรณะ-ศุภะ-กรรมะ-ลาภ-วินาสน์"เรียกกันไปตามลำดับ

144. คาถาดังกล่าวเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า"เรือนชะตา" ถ้านับจากลัคนา เรียกว่า เรือนชะตาของลัคนา ถ้านับจากตนุเศษเรียกว่า เรือนชะตาของตนุเศษ ซึ่งมีการทายแตกต่างกัน ดังจะบอกให้ทราบภายหลัง ในตอนนี้มาศึกษากันว่าเราจะทายเรื่องอะไรได้บ้างจากคาถาดังกล่าวมา

145. คาถาตัวแรกคือ ตนุ ทายเรื่องตัวตนของเราเองว่าเป็นอย่างไรบ้าง เช่นดวงนี้มี จันทร์ ๒ เป็นตนุเศษ ก็จะมีลักษณะเป็นคนอ่อนไหวง่าย รักสวยรักงาม มีเสน่ห์ต่อคนที่พบเห็น ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมง่าย

146. ตัวที่ 2 กะดุมภะ หมายถึงการเงิน ความเก่งกาจในการหาเงินทองใช้จ่าย ฐานะทางการเงิน

147. ตัวที่ 3 สหัชชะหมายถึงเพื่อนร่วมงาน เพื่อนที่คบหากัน วัยเดียวกันหรือไล่เรี่ยกัน

148. ตัวที่ 4 พันธุ หมายถึงบิดามารดา ญาติพี่น้อง คนที่นับถือและสนิทกันเหมือนญาติทั้งฝ่ายของตนเองและคู่ครอง

149. ตัวที่ 5 คือบุตรหลานของทั้งสองฝ่าย

150. ตัวที่ 6 อริ คือศัตรูในทางการงาน คู่แข่งในทางธุรกิจ อุปสรรค

151. ตัวที่ 7 ปัตนิ หมายถึงคู่ครองหรือหุ้นส่วนธุรกิจ

152. ตัวที่ 8 มรณะ คือความตาย หมายถึงว่าถ้าดาวดีให้คุณมาเป็นมรณะก็ไม่สามารถให้คุณได้ ในทำนองเดียวกันถ้าดาวที่ให้โทษ เมื่อมาเป็นมรณะก็ไม่สามารถให้โทษได้เช่นกัน

153. ตัวที่ 9 ศุภะคือความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ในหน้าที่การงาน งานอดิเรก งานเสริม

154. ตัวที่ 10 กรรมะ คืองานที่ทำเป็นอาชีพหลัก งานที่เลี้ยงตัวเองและครอบครัว

155. ตัวที่ 11 ลาภะ คือลาภที่ได้มาจากการทำงาน ได้จากการเสี่ยงโชค ได้จากการลงทุนด้านค้าขาย

156. ตัวที่ 12 วินาสน์การดับสูญ ไม่ปรากฏให้เห็น ไม่เปิดเผย การไม่อยู่ด้วยกัน

157. การนับหาดาวเจ้าเรือนมี 2 อย่าง คือนับจากลัคนาของเจ้าชะตาอย่างหนึ่ง และนับจากตนุเศษอย่างหนึ่ง

158. แต่ทั้งสองอย่างคาถาเรียงเหมือนกันคือ ตนุ-กะดุมภะ-สหัชชะ-พันธุ-ปุตตะ-อริ-ปัตนิ-มรณะ-ศุภะกรรมะ-ลาภะ-วินาสน์

159. แต่ถ้าลัคนาและตนุเศษของเจ้าชะตาสถิตราศีเดียวกัน นับเพียงอย่างเดียว เพราะดาวเจ้าเรือนจะเป็นดาวเดียวกัน

160. อย่างคนที่มีทั้งลัคนาและตนุเศษสถิตราศีเมษ ดาวเจ้าเรือนกะดุมภะคือศุกร์ ๖ เหมือนกัน

161. ทีนี้กลับไปที่ดวงสมมุติในข้อที่ 137 ตามดวงลัคนาสถิตราศีกุมภ์ ตนุเศษสถิตราศีเมษ

162. เมื่อนับดาวเจ้าเรือนจะได้ดังนี้ จากลัคนาเรียงกันไปตามลำดับ ๘๕๓๖๔๒๑๔๖๓๕๗

163. นับจากตนุเศษเรียงกันไปตามลำดับ จะได้ดังนี้ ๓๖๔๒๑๔๖๓๕๗๘๕

164. จะเห็นว่าดาวเจ้าเรือนที่นับจากลัคนาและนับจากตนุเศษต่างกัน เวลาทายก็ต่างกันไปด้วย ดังนั้นขอให้ทุกท่านที่ต้องการจะเป็นโหรจริง ๆ หัดสังเกตุและจดจำเอาไว้ว่า เรื่อง "เพื่อน"ก็เช่นเดียวกัน เราเอาดาวเจ้าเรือน สหัชชะ ของลัคนาหรือของตนุเศษมาทาย อันไหนถูกต้องกว่ากัน?

165. เท่าที่ผมทายมาแล้ว และทายถูกเป็นส่วนมาก คนที่หาเงินเก่งและสร้างฐานะทางด้านการเงินได้เร็ว มักมีดาวเจ้าเรือนกะดุมภะและดาวเจ้าเรือนลาภะจากตนุเศษ ได้ตำแหน่งดีเด่น เช่นเป็น ศรี มนตรี เดช ตามทักษาและได้ตำแหน่งเป็นมหาอุจจ์ มหาจักร ราชาโชค เกษตร ถ้ามาจากเรือนของลัคนา  มักเป็นฐานะเดิมของบิดามารดาเสียมากกว่า ทั้งยังต้องสัมพันธ์ดีกับลัคนา คือไม่เป็นอริมรณะวินาสน์

166. ถ้าดาวศุกร์ ๖ ด้วย ดาวเสาร์ ๗ ดีด้วย ก็รวยมาก เพราะดาวศุกร์ ๖ หมายถึงขุนคลัง ดาวเสาร์ ๗หมายถึงหลักทรัพย์เช่นบ้านที่ดินอาคาร

177. แต่ไม่ใช่ดาวศุกร์ ๖ และเสาร์ ๗ อยู่ด้วยกันนะครับ เพราะนั่นหมายถึงคนอกหักหรือดวงอกหัก รักมากทุกข์มาก รักคนอื่นจนลืมรักตัวเอง

178. ตามดวงที่สมมุตินี้ มีดาวดีที่ได้ตำแหน่งคือ จันทร์ ๒ ได้ตำแหน่งมหาจักร์ ราหู ๘ มหาอุจจ์ พฤหัสบดี ๕ เกษตร ศุกร์ ๖ มหาอุจจ์

179. ดาวจันทร์ ๒ นอกจากเป็นมหาอุจจ์แล้วยังเป็นดาวมูลละตามทักษาเดิม และโยกหน้าลัคนาด้วย ดังนั้นต้องทายว่า คนนี้ต้องมีมรดกแน่

180. นอกจากนั้นก็ยังเป็นดาวเจ้าเรือนพันธุ ก็ต้องเป็นคนที่ชาติตระกูลดี มีฐานะการเงินดี

181. ดาวเจ้าเรือนกะดุมภะของตนุเศษคือศุกร์ ๖ ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์ และไปอยู่ในเรือนกะดุมภะของลัคนา ต้องเป็นคนหาเงินเก่ง คนพวกนี้จนไม่นาน แต่ก็ใช้เงินเก่งเพราะวินาสน์ตนุเศษ

182. ดาวเจ้าเรือนกะดุมภะของลัคนาคือพฤหัสบดี  ๕ และดาวเจ้าเรือนลาภะของลัคนาก็คือพฤหัสบดี ๕ เช่นกัน จึงเป็นการตอกย้ำว่าคนนี้เดิมก็เป็นคนมีเงิน เมื่อดาวด้านการเงินดีทั้งของตนุเศษและลัคนา คนพวกนี้จะเป็นคนจนยาก รวยง่าย

183. เรื่องเพื่อนไม่ค่อยดีนัก เพราะดาวเจ้าเรือนสหัชชะ ต้องเอาดาวจากเรือนตนุเศษ มาทาย และดาวพุธ ๔ เป็นนิจเป็นประ เพื่อนจึงมีฐานะหรือหน้าที่การงานไม่ดีนัก เพื่อนจะด้อยกว่าในหลายอย่าง

184. ถ้าจะทายเรื่องปุตตะต้องเอาดาวเจ้าเรือปุตตะของตนุเศษมาทาย ได้แก่อาทิตย์ ๑ กุมลัคนาและเป็นศรีด้วยบุตรจึงดีและได้พึ่งแน่นอน

185. คือเป็นดังนี้ครับ คนที่มีลัคนาและตนุเศษแยกกันอยู่คนละราศีจะทายค่อนข้างยาก แต่ถ้าชำนาญแล้วก็ไม่ยาก แต่ต้องแยกกันทาย ว่า เรื่องอะไรทายจากลัคนา เรื่องอะไรทายจากตนุเศษ 10 ลัคน์จะทายแยกกันครับ ไม่ทายมั่วดังที่เคยเห็น

186. ลัคนา เอาไว้ทายนิสสัยประจำตัว เช่นขยัน ขี้เกียจ พูดดีหรือไม่ดี มีคุณธรรมหรือไม่ เรียนเก่งไหม? การเดินทาง อุบัติเหตุ เจ็บป่วย ตาย มีลาภ เช่นได้มรดก ได้เงินจากการเสี่ยงโชค การได้ตำแหน่งงาน บริวาร สุขภาพ ฯลฯ

187. ตนุเศษ เอาไว้ทายเรื่อง การหาเงิน เพื่อน ญาติ บุตรหลาน ศัตรูอุปสรรคด้านการงาน คู่ครองหุ้นส่วนทางธุรกิจ ความรุ่งเรืองด้านการงาน ลาภจากงาน อาชีพ ฯลฯ

188. และการทายให้ใช้ "ดาวเจ้าเรือน" เป็นหลัก ก่อนทายจึงต้องดูให้ชัดเจนว่าดาวอะไร? เป็นดาวเจ้าเรือนอะไร? ทั้งของลัคนาและตนุเศษ

189. ตามดวงที่สมมุติเกิดวันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม 2552 เวลา 09.18 ที่กรุงเทพฯ ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ ตนุเศษสถิตราศีเมษ ดังนี้ดาวเจ้าเรือนต่างกัน

190. ดาวเจ้าเรือนจาก "ลัคนา" เรียงกันไป 191. ดาวเจ้าเรือนจาก "ตนุเศษ" ๓๖๔๒๑๔๖๓๕๗๘๕

192. แต่การทายทุกครั้ง ทุกเรื่องต้องมีทักษาเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ขอเตือนความจำไว้กันลืม คือเอาทั้งทักษาเดิม ทักษาจร

193. มีหลายท่าน พอผูกดวงเสร็จแล้วติดนิสสัยเอาดาวลอยในดวงมาทาย ตามดวงที่สมมุติก็จะเอา ๘ มาทายเรื่องการงาน เพราะ ๘ อยู่ในเรือนกรรมะ ทายแบบนี้ผิดครับ ถ้าจะทาย ๘  ก็ต้องดูว่า ๘ มาจากดาวเจ้าเรือนอะไร ทักษาเดิมเป็นอะไร ต้องทายว่าคนนี้มีใจนักเลง เพราะลัคนาสถิตเรือน ๘ และ ๘ ได้ตำแหน่งดี แถมมี ๓ กุมลัคน์ด้วย สุขภาพดีเพราะ ๘ เป็นดาวอายุได้ตำแหน่งมหาอุจจ์ ภาษาต่างประเทศดี ทำงานเกี่ยวข้องกับต่างชาติดี ๘ หมายถึงต่างชาติครับ

194. ขอยืนยันว่าการที่ท่าบุรพาจารย์กำหนด คาถาหรือชื่อ"เรือน"เอาไว้ ก็เพื่อให้เอามาทายครับ ไอ้ที่ว่า ตนุ กะดุมภะ สหัชชะ พันธุ ปุตตะ อริ ปัตานิ มรณะ ศุภะ กรรม ลาภะ วินาสน์นั่นน่ะ มิได้คิดขึ้นมาเพื่อแก้เซ็ง

195. ก็ถ้าเอาดาวลอยในดวงมาทาย ก็ทายได้ เช่นคนนี้ นักเลง(๓กุมลัคน์ในเรือน ๘) ขยัน (๓กุมลัคนา)พูดจาดี(๔ได้คู่อสีติธาตุกับ๖)ฐานนะการเงินดี(๕ เกษตร ๖ มหาอุจจ์) ความรู้ดี(๕ เกษตรนำหน้าลัคนา)

196. ดวงตัวอย่างอันดับ 2 เป็นหญิงเธอเกิดวันพุธที่ 10 ธันวาคม 2518 เวลา 20.02 กรุงเทพฯ เมื่อทำดวงออกมาแล้ว ลัคนาอาทิตย์ ๑ สถิตราศีกรกฏ และอาทิตย์ ๑ ก็เป็นตนุเศษ ๔๙ สถิตราศีสิงห์ ๒ สถิตราศีกันย์ ๕ สถิตราศีตุลย์ ๓๗ สถิตราศีธนู ๘ สถิตราศีเมษ ๖๐ สถิตราศีพฤษภ

197. ดวงนี้ลัคนาและตนุเศษสถิตราศีเดียวกัน การทายไม่ยาก ดวงนี้เจ้าชะตามีความขยันหมั่นเพียรดี เพราะดาวอุตสาหะตามทักษาเดิมคือดาว ๑ กุมลัคนา และได้ตำแหน่งมหาจักร์  เป็นคนพูดจาดีน่าเชื่อถือ บริวารดี เพราะ ๔ เป็นดาวที่หมายถึงการพูดการติดต่อสมาคมกับคนภายนอก และเป็นดาวบริวาร ทั้งดาวยังได้ตำแหน่งดีเป็นมหาจักร์และราชาโชค นำหน้าลัคนา เป็นคนมีความเที่ยงธรรมดี เพราะ ๕ สถิตราศีตุลย์ ราศีที่มีคันชั่งเป็นสัญลักษณ์ประจำราศี มีผู้อุปถาภ์ดี เพราะ ๒ ดาวมนตรีตามทักษาได้ตำแหน่งราชาโชค การเงินดี เพราะดาว ๔ อันเป็นดาวเจ้าเรือนกะดุมภะได้ตำแหน่งมหาจักรและราชาโชค มีลาภผลจากการทำงาน การลงทุนดี เพราะดาว ๖ เจ้าเรือนลาภะได้ตำแหน่งเกษตร แต่เมื่อได้ลาภมาก็มีรายจ่ายมากเช่นกันเพราะ ๐ อยู่ในเรือนลาภะ มีเพื่อนร่วมงานดี เพราะดาวเจ้าเรือนสหัชชะคือ ๔ ได้ตำแหน่งมหาจักรและราชาโชค ญาติพี่น้องดีช่วยเหลือหรือพึ่งกันและกันได้ เพราะ ๖ ดาวเจ้าเรือนพันธุ ได้ตำแหน่งเกษตรโยกหลังลัคนา  แต่มีญาติไม่มาก  เพราะ ๐ กุมดาวพันธุ บุตรหลานไม่ดี เพราะดาวเจ้าเรือนปุตตะ ๓ เป็นกาลกิณี และไปครองเรือนอริลัคน์และตนุเศษ ชีวิตการครองคู่ไม่ดี  สุขภาพไม่ดีอายุไม่ยืน เพราะดาว ๗ อันเป็นดาวเจ้าเรือนปัตนิ และเป็นดาวอายุ ครองเรือนอริลัคนาและตนุเศษ

ต้องเปลี่ยนงาน เบื่องานง่าย ย้ายงานบ่อย เพราะดาวเจ้าเรือนกรรมะ ๓ เป็นกาลกิณีจร เรียนหนังสือเก่งเพราะ ๘ เล็ง ๕  มัวเมาลุ่มหลงในวิชาการและ ๕ ได้ตำแหน่งเป็นอัมพุเกณฑ์

198. การทายหรือพยากรณ์ดวงตัวอย่างตามข้อ 197. ว่ากันไปตรง ๆ ตามตัวเลขที่เห็นไม่ต้องสลับซับซ้อนมาก เห็นกันชัด ๆ

199. การทายพื้นดวง เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เพื่อให้รู้ว่าดวงของใครเข้มแข็งหรือออ่นแอ ในจุดใด อย่างดวงนี้จะเห็นว่าจุดบกพร่องคือเรื่องบุตรหลานและหน้าที่การงาน ดวงแบบนี้จะออกจากงานง่าย ปุบปับ ไม่พอใจยื่นใบลาลาออก จุดอื่นดูแล้วเข้มแข็งดี พอต้านทานเคราะห์กรรมในยามที่มาถึงได้

200. สำหรับจุดเด่นของดวงนี้ คืออาทิตย์ ๑ ได้ตำแหน่งมหาจักร อยู่ในเรือนมนตรี และมี ๕ เป็นอัมพุเกณฑ์คุ้มโทษ 1000 เท่าสมดังคำของครูบาอาจารย์จริง ๆ

201. ดวงตัวอย่างอันดับ 3 ดวงนี้เป็นหญิงเช่นกัน เกิดตรงกับวันพุธที่ 16 ตุลาคม 2511 เวลา 06.15 น. สุราษฎร์ธานี จังหวัดเดียวกับที่ผมเกิด

202. ดวงของเธอเป็นดังนี้ ๑๔๕๐ สถิตราศีกันย์ อันเป็นราศีธาตุดินชั้น 3 ศุกร์ ๖ สถิตราศีตุลย์ ๙ สถิตราศีมังกร ๗๘ สถิตราศีมีน ๒ สถิตราศีกรกฏ ๓ สถิตราศีสิงห์

203. ดวงนี้เป็นการส่งการบ้านของศิษย์คนหนึ่ง ถามว่าญาติพี่น้องดีไหม? เมื่อถามแบบนี้เราก็ต้องมองหาดาวเจ้าเรือนพันธุทันทีเป็นอันดับแรก

204. ดาวเจ้าเรือนพันธุของดวงนี้คือ ๕ ดาวดวงนี้ถือกันเป็นยอดของดาวนำโชค ตามหลักโหราศาสตร์เขาให้เกียรติเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ถ้าดาว ๕ ดีกับดวงชะตาของใคร เป็นต้นว่ากุมลัคน์ เล็งลัคน์ โยกหน้าโยกหลัง ร่วมธาตุ(ตรีโกณ) เป็นองค์เกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยที่ดาวอื่นอีก 9 ดวงเสีย ก็สามารถเอาตัวรอดได้ คือสามารถดำรงชีพได้ไม่น้อยหน้าน้อยตาคนอื่น แม้จะไม่ดีเลิศประเสริฐศรี

205. เมื่อดาว ๕ หรือดาวเจ้าเรือนพันธุกุมลัคนา อาทิตย์ ๑ ถือว่าดี คือพึ่งกันและกันได้ เช่นหากต้องการความช่วยเหลืออย่างใดอย่างหนึ่ง วิ่งไปหาญาติก็จะได้รับความช่วยเหลือ เว้นญาติคนที่มีลัคนาเป็นอริมรณะต่อกัน หรือ ๕ ในดวงชะตาของเขาเสื่อม

206. ที่ว่าดีเพราะตรงนี้เป็นราศีประเภทนระ เข้าเกณฑ์บังคับพอดี เรียกว่าเป็นตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ก็คงไม่ผิดนัก

207. ถัดมาดาว ๕ ตัวนี้ยังมีดาวอาทิตย์ ๑ ที่เป็นระเกณฑ์ให้กับตัวเอง ยังเป็นดาวคู่มิตรกับดาว ๕  ตามตำนานโลกธาตุบอกว่า พระอาทิตย์ ๑ เป็นศิษย์รัก ที่ไปศึกษาวิชาการกับพระพฤหัสบดี ๕ ที่ตั้งตนเป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ นอกจากเป็นคู่มิตรศิษย์รัก ๑ ยังครองตำแหน่งราชบุตรเขยอีกทอดหนึ่ง เพราะได้ นส.จันทร์ ๒ ผู้เลอโฉมบุตรสาวพระอาทิตย์ ๑ มาเป็นเมีย นี่จึงเป็นจุดเข้มแข็งของ ๕

208. กล่าวถึงพุธ ๔ ที่เป็นบริวารตามทักษา ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์และเกษตร ทักษาเบื้องต้นที่เรียนกันมาจะเห็นชัดว่า ๔ เป็นดาวศรีของอาทิตย์ ๑ เสมอ และพุธ ๔ กับอาทิตย์ ๑ ร่วมราศีกันเมื่อไร จะมีกำลังเป็นครึ่งหนึ่งของ ๕ หมายถึงว่า ๑๔ รวมกันอยู่ในราศีใด คนนั้นต้องมีปากเป็นเอก อันถือกันว่าเป็นยอดคน

209. ที่กล่าวอ้างมาล้วนเป็นการเสริมความดีให้กับดาว ๕ จึงกล้ายืนยันว่าคนนี้มีญาติดีจริง ๆ เพียงแต่เป็นคนมีญาติที่ไปมาหาสู่น้อยไปหน่อยเท่านั้น ที่ว่าดังนี้เพราะมีดาว ๐ คอยทำลายอยู่ด้วย ดาวดวงนี้อยู่เรือนไหนทำลายเรือนนั้น อยู่กับดาวอะไรทำลายดาวนั้น

210. อีกคำถามหนึ่งคือเรื่องดวงแตกดวงร้าว หรือที่ทั่วไปเรียกกันว่าเป็นดวงพินธุบาท คำนี้ผมได้ยินบ่อยมาก แต่ไม่เคยมีใครอธิบายให้ฟัง ว่าเป็นเรื่องอะไร สำหรับดวงนี้หากจะเป็นพินธุบาท ผมว่าคงเรื่องเดียว คือเรื่องของการครองรักครองเรือน

211. เมื่อดาวมฤตยู ๐ อันมีพฤติกรรมสมชื่อ ทำให้ญาติน้อย ก็ย่อมทำให้มีคู่น้อยไปด้วย เพราะดาวเจ้าเรือนปัตนิเป็นดาวเดียวกับดาวเจ้าเรือนพันธุ นอกจากดาวมฤตยู ๐ คอยกัดกร่อนดาวเจ้าเรือนปัตนิแล้วในเรือนปัตนิก็มีดาวราหู ๘ ทำลายเรือนซ้ำอีก เน้นชัดว่าเจ้าชะตารายนี้มีคู่ยากสุด ๆ ถ้ามี มีเกณฑ์ตายจากกันตายสูงกว่าการหย่าร้าง เว้นแต่ไปได้คู่ที่ดวงเหมือนกัน คือเป็นดวงกินคู่แบบนี้

212. ส่วนดาวเสาร์ ๗ ที่อยู่ในเรือนปัตนิเป็นแค่ทำให้การมีคู่ช้ากว่าปกติเท่านั้น

213. เนื่องจากเจ้าชะตามีดาวศุกร์ ๖ ซึ่งเป็นดาวกามกิเลสกำดัเข้มแข็ง คือเป็นเกษตร และนำหน้าลัคน์ ดาวจันทร์ ๒ ได้ตำแหน่งเกษตรโยกหลังลัคน์ ทำให้เป็นคนหน้าตาดีมีเสน่ห์ มึคนมาสนใจไม่ค่อยขาดจึง ทายได้ว่าต้องมีคู่ แม้จะช้าหรือสายไปบ้าง แต่ก็ต้องทันรถไฟขบวนสุดท้าย

214. การเงินต้องดี เพราะดาวเจ้าเรือนกะดุมพะคือ ๖ ได้ตำแหน่งเกษตร และมูลละ

215. ลาภก็ต้องดีด้วย เพราะดาวจันทร์ ๒ อันเป็นดาวเจ้าเรือนลาภะก็ได้ตำแหน่งเกษตร

216. การงานต้องดี  บริวารต้องดี เพราะดาวเจ้าเรือนกรรมะคือ ๔ ได้ตำแหน่งถึง 2 ตำแหน่ง

ความรุ่งเรืองด้านการงานก็ไม่เบาเพราะดาวเจ้าเรือนศุภะ เป็นดาวเดียวกับดาวเจ้าเรือนการเงิน

217. ผมได้พยายามยกตัวอย่างมาให้ดู 3 ตัวอย่าง สำหรับการทายพื้นดวง ถ้าท่านอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์จริง ๆ ก็น่าจะทำให้ท่านหูตาสว่างขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย ต่อไปจะขอเอาเรื่องอื่นมาแจกแจงให้ฟัง เพื่อท่านจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

218. ทีนี้เรามาว่ากันเรื่อง "การทายจร" ซึ่งการทายจรในหลักใหญ่จะมีอยู่ 3 อย่าง 1 ทายจรอดีต 2 ทายจรปัจจุบัน 3 ทายจรอนาคต

219. การทายหรือพยากรณ์จรอดีต เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทายผิดไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เขารู้ของเขาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นการทายที่ไม่มีใครอยากเสี่ยง โอกาสผิดกับถูกมีเท่ากัน แต่ผลที่ออกมาต่างกันราวฟ้ากับดิน

220. คือถ้าทายถูกโหรหรือหมอดูคนนั้นจะได้รับความศรัธาในทันที นอกเหนือจากเงินค่าบูชาครู ดีไม่ดีอาจจะได้ค่าทิปเพิ่มหลายเท่า จากนั้นความแม่นยำของโหรก็จะแพร่กระจายปากต่อปาก เงินจะไหลมาเทมา การเป็นคนดังก็ใกล้แค่มือเอื้อมถึง

221. แต่ถ้าทายผิดหน้าแตกทันทีเช่นกัน และจะหน้าแตกลุกลามไปถึงครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนมา อนาคตการจะเป็นโหรดังดับวูบอย่างน่าเสียดาย

222. อีกประการหนึ่งการทายจรอดีตอย่างถูกต้องแม่นยำ นอกจากเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอย่างดียิ่งแล้ว ยังเป็นการยืนยันว่าข้อมูลวันเดือนปีเกิดเวลาเกิดที่นำมาผูกดวง เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ดาวในดวงชะตาย่อมไม่เข้าใครออกใคร ตรงไปตรงมาเสมอ

223. ปัจจัยสำคัญของการทายจรอดีต ต้องมีระยะการโคจรของแต่ละดาวชัดเจน จำไม่ได้ก็ให้ทำเป็นแผ่นชาร์ตติดตัวเอาไว้  อีกประการหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือสมาธิ ความรอบคอบ ใจเย็น อย่าผลีผลามทายเป็นอันขาด ต้องเห็นในจุดที่จะทายชัดเจนก่อน และต้องทายเรื่องร้าย เช่นออกจากงาน ย้ายงาน ป่วยหนัก เสียของรัก ฯลฯ

224. พอพูดถึงการทายจรอดีตให้ถูกต้อง รับรองด้วยเกียรติยศว่าต้องมีหลายคน เกิดความไม่มั่นใจว่าตัวเองทำได้

225. ถ้าความรู้สึกอย่างที่ว่าเกิดขึ้น นั่นเท่ากับท่านดูถูกตนเองอย่างร้ายแรง ยิ่งกว่าคนอื่นหลายเท่า

226. คำว่าทายจรอดีต มันเริ่มกันที่...เมื่อวาน...วานซืน...สัปดาห์ที่แล้ว...เดือนที่แล้ว...ปีที่ผ่านมา...หรือ 10-20-30 ปีที่ผ่านมา

227. คงไม่ต้องย้ำกระมังครับว่า อย่าทายย้อนหลังนานเกิน เพราะสิ่งที่เกิดมานาน คนมักลืมง่าย เอากันที่ใกล้ ๆ และเราจำระยะการโคจรของดาวได้ว่าดาวอะไรโคจรอยู่ในราศีอะไร เป็นอะไรกับลัคน์หรือตนุเศษ

228. สมมุติว่าคนหนึ่งเกิดวันพุธ ลัคนาสถิตราศีเมษ มีดาวอังคาร ๓ กุมลัคน์ มาให้พยากรณ์ แต่ขณะที่เขามาหาดาวอังคาร ๓ จรอยู่ในราศีพฤษภ เราก็ทายทันทีว่า เดือนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุเลือดตกยางออก รถชน ซ่อมรถ คนมาหลอกยืมเงินหรือปวดฟัน เพราะจำนวนคนส่วนมากมักมีดาว ๔ กุมลัคน์ด้วย ๔ กับ ๓ ไม่ค่อยจะถูกคอกันเท่าไร ๓ เป็นกาลีของ ๔ มาตลอดกาล ไม่ว่าเกิดวันอะไร

229. หรือวันที่เขามาหา อายุจรของเขาตกภูมิทักษา ๕ เท่ากับขณะนั้นดาวเสาร์ ๗ อันเป็นดาวเจ้าเรือนกรรมะ เป็นกาลีจร และดาวเสาร์ ๗ เพิ่งย้ายออกจากราศีมังกร หรือราศีเมษ ก็ทายเรื่องงาน การย้ายบ้าน การเดินทางไกลใน 2 ปีครึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ผิด

230. หรือวันที่เขามาหา อายุย่างตกภูมิ ๘ ก็ทายเรื่องงานได้ เพราะ ๕ กำลังเป็นกาลีจร

231. หรือสุดท้ายวันที่เขามาหา ดาวเจ้าเรือนปัตนิคือ ดาวศุกร์ ๖ จรเป็นกาลีมาแล้ว ก็ทายเรื่องคู่ได้ไม่ผิด ขัดใจกับคู่รักหรือเมียพูดกันคนละภาษา ดังนี้เป็นต้น

232. แต่ผมจะขอเอาไว้สักข้อว่า ถ้าทายจรอดีตไม่ได้หรือทายผิด กรุณาอย่าบังอาจทายปัจจุบันและอนาคตเลยครับ รีบม้วนเสื่อกลับบ้านไป ติวเข้มอีกรอบแล้วค่อยออกสนามใหม่ อย่าเสียกำลังใจ เพราะการเป็นโหรไม่ง่ายอย่างที่คิด  ต้องเดินทางยาวไกล ฝ่าอุปสรรคนานับประการ จนกว่าจะประสบกับความสำเร็จ ไม่มีโหรดังคนใดทายไม่ผิด ผมเองก็มีแผลเป็นบนใบหน้ามาหลายแผลเช่นกัน

233. แต่ถ้าทายถูก ตรงนี้แหละครับที่เป็นสุดยอดความสุขของโหร! ความประหวั่นพรั่นพรึงต่าง ๆ หายวับไปกับตา เงินทองเป็นเรื่องรอง แต่ศรัธาและความเชื่อถือได้รับเต็มกอบเต็มกำ ความกดดันที่เกือบจะทำให้หัวใจ หล่นไปอยู่ตาตุ่มในตอนแรก หวนกลับคืนมาเต็มเปียม ถ้าใครที่ยอมรับเป็นศิษย์ผมทำได้ ผมก็จะพลอยได้หน้าไปด้วยนะครับ หากหน้าแตกก็แตกเป็นทีมทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์เช่นกัน

234. เมื่อกล่าวมาถึงการทายจรอดีต ก็ต้องว่ากันให้สิ้นกระบวนการ ไม่อย่างนั้นท่านก็จะหาว่าผมงกวิชา ปกปิดหลักการ ไม่ยอมเผยออกมาทั้งหมด

235. ตามที่ผมยกตัวอย่างที่ผ่านมา บอกไว้กว้าง ๆ ความจริง หลักเขามีทายได้แบบเจาะลึก แต่การเจาะลึก ยิ่งลึกความรอบคอบ ความละเอียดละออก็สูงขึ้นเป็นลำดับ ต้องหัดสังเกตุ และเก็บข้อมูลหลายอย่างมาประกอบ ตั้งแต่พื้นดวง คือต้องรู้จุดอ่อน จุดแข็งของพื้นดวงมาทีเดียว กล่าวคือถ้าดวงเขามีจุดอ่อนเรื่องคู่ หรือชีวิตการครองรักครองเรือน ยามที่ดาวเจ้าเรือนปัตนิจรเป็นกาลกิณีในปีใด เราก็จับตรงนั้นมาทายแบบทิ้งทวนได้เลยว่าบ้านแตก แต่ถ้าดวงเขาแข็ง ดาวเจ้าเรือนปัตนิเข้มแข็งดี เช่นได้ตำแหน่ง และอยู่ในเรือนที่ดี ทายผิดทันที อย่างมากมึนตึงและนอนหันหลังให้กันพักเดียว ในเรื่องอื่นก็เข้าทำนองเดียวกัน

236. จึงจะเห็นว่าที่แท้ ในการพยากรณ์หรือทายดวงชะตา พื้นดวงสำคัญที่สุด ต้องทะลุปรุโปร่งจริง ๆ จึงจะทายจรไม่พลาด

237. จะขอยกตัวอย่างมาให้เห็น ยามที่ดาวจรคือเสาร์ ๗ จรมาทับลัคน์เล็งลัคน์ เราจะทายเรื่องเคราะห์กรรมได้ในระยะ 2 ปี ครึ่ง ตามอัตราการโคจรของดาวเสาร์ ๗ แต่มันกว้างเกินไปในการจะระมัดระวังตัวไม่ให้เกิดเหตุ เราเอาดาวบาปเคราะห์อังคาร ๓ มาจับอีกชั้น ดาว ๓ จรเข้ามาทับหรือเล็ง นั่นแหละ คือจะเกิดช่วง หรืออีกช่วงหนึ่งคือ ดาวเสาร์ ๗ จร ทับหรือเล็งมีองศาเท่าลัคนา

238. หรือเมื่อถูกถามว่าเมื่อใดจะได้งานทำ การพิจารณาในขั้นต้นต้องมาจากดาวพฤหัสบดี ๕ จรเข้าทำมุมดีกับลัคนา อันดับต่อมาก็จับเอาอาทิตย์จร ๑ เข้ามาทำมุมดีอีกดาวหนึ่ง เพราะดาวอาทิตย์ ๑ ทายยศศักดิ์ ทายตำแหน่งหน้าที่การงาน จรทับหรือเล็งลัคน์ยิ่งดีมาก อาทิตย์จร ราศีละ 1 เดือนไม่มีช้าหรือเร็วเหมือนดาวอื่น 

 

239. การทายจร ไม่ว่าทายจรอดีต ปัจจุบัน หรือนาคต ถ้าจะนำมาสรุปกันเพื่อให้เห็นกันชัด ๆ เพื่อแก้ปัญหาคนที่ชอบสะสมความงงของตนเองก็จะเป็นดังนี้

240. การทายเรื่องไม่ดี หรือที่รวมเรียกกันว่าเคราะห์กรรม เช่นการย้ายงาน การเดินทาง การต้องออกจากงาน การเสียของรัก เสียบิดามารดา หรือญาติผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด อุบัติเหตุ การเจ็บป่วย ครอบครัวแตกแยก ย้ายบ้าน ฯลฯ อะไรทำนองนี้ ใช้ดาวบาปเคราะห์ ๗ มฤตยู ๐ และ ๘ เป็นตัวทายนำร่อง ยิ่งถ้าสองดาวนี้เป็นกาลกิณีจรในปีที่จะทาย และเข้ามาทำมุมดีกับลัคน์ หรือตามภาษาของคนที่มีความรู้ดี เขาว่ามีแรงเอื้อมถึงลัคน์ แล้วตามด้วยอาทิตย์ ๑ หรืออังคาร ๓

241. ถ้าทายเรื่องดี ๆ เช่นการมีโชคลาภด้านการงาน ได้งานทำ ได้เลื่อนตำแหน่งงาน  ได้เงินเดือนเพิ่ม ได้ทุนไปเรียนต่อ ได้เพื่อน ได้คู่ ได้ทรัพย์สิน มรดก บ้านที่ดิน ฯลฯ นำด้วยดาวพฤหัสบดี ๕ จากนั้นจึงเอาดาวศุกร์ ๖ พุธ ๔ จันทร์ ๒ มาทายควบเพื่อให้ทราบระยะที่แคบลง

242. ทีนี้มาถึงการทายจรปัจจุบัน การทายหรือพยากรณ์ในจุดนี้ก็ง่ายขึ้น เว้นแต่ทายจรอดีตผิด การทายจรปัจจุบันก็เอาช่วงที่เขาหานั่นแหละ  ต้องรู้ว่าเขามาด้วยเรื่องอะไร เรื่องงาน เรื่องคู่ เรื่องบริวารฯลฯ ถ้าไม่รู้ว่าเขามาหาเรื่องอะไรก็ค่อนยาก บางคนจับยามหรือผูกดวงยาม ตามเวลาที่เขามา แต่ผมไม่มีความรู้ตรงนั้น อยากให้ทุกคนใช้ตามกฎเกณฑ์ของโหราศาสตร์โดยเฉพาะ 10 ลัคน์

243. ให้หัดสังเกตคนมาหาดังนี้ ถ้าดาวเจ้าเรือนปัตนิกำลังเป็นกาลี  เสาร์ ๗ จรเข้าเรือนปัตนิ  ราหู ๘ จรเข้าเรือนปัตนิของตนุเศษหรือของลัคนา เสาร์ ๗ หรือ ราหู ๘ จรทับดาวปัตนิ ก็ต้องมาเรื่องขัดใจกับคู่แน่นอน แต่ก็ต้องดูให้รอบคอบถ้าบังเอิญดาวเจ้าเรือนปัตนิที่ว่าเป็นกาลกิณีนั้นเป็นดาวพฤหัสบดี ๕ ก็กระทบเรื่องงาน หรือการเสียญาติผู้ใหญ่ด้วย

244. ถ้าดาวเจ้าเรือนกรรมะกำลังเป็นกาลกิณีจรก็มาเรื่องเบื่องานอยากเปลี่ยนงาน เพราะงานมีปัญหา

245. ถ้าดาวเจ้าเรือนอุตสาหะเป็นกาลกิณีจร เบื่องานอยากออก เกิดความท้อแท้ไม่อยากทำงาน ที่เขาว่าขี้เกียจนั่นแหละ

246.  ทีนี้ถ้าเมื่อผูกดวงแล้วไม่เข้ากฎที่ว่า คือดวงเสียก็ไม่เสีย ดีก็ไม่ดี พวกนี้เป็นพวกมาทดลอง คนที่มาลองของนี่ต้องทายให้ดี ถ้ามองไม่เห็นจุดเด่นที่มั่นใจว่าทายไม่ผิด ก็พยายามทายกลาง ๆ หรือหาทางทายให้ถูกใจ

247. เพราะหลักที่แท้จริงไม่อิงนิยายของการเป็นหมอดูนี่ มี 2 อย่างที่จำเป็นต้องทำ คือ ทายให้ถูกเรื่องหนึ่ง และสุดท้ายทายให้ถูกใจ ทำให้ได้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จึงจะเป็นโหรอาชีพได้ตลอดรอดฝั่ง

248. ทีนี้เหลือการทายจรอนาคต นี่ยิ่งง่าย เหมือนหยิบชิ้นแอปเปิ้ลที่ปอกแล้วเข้าปาก ทว่าอย่ารีบร้อนจนเกินไป ไม่เช่นนั้นมีสิทธิ์กัดลิ้นตัวเองเข้า

248. ยกตัวอย่างว่ามีเจ้าชะตา เสาร์ ๗ จรอยู่ในเรือนอริ หรือ ราหู ๘ จรอยู่เรือนมรณะมานานเต็มแก่แล้ว อีก 3-4 เดือนจะเข้าเล็งลัคนา ทายล่วงหน้าได้เลยว่าจะมีแต่เรื่องปวดหัวอย่างแน่นอน ผมทายมาหลายรายแล้ว ไม่เคยผิด

249. เช่นคนที่ทำงาน หรือจะทำกิจการอะไร ช่วงมาหาพฤหัสบดี ๕ กำลังเล็งลัคนา และไม่เป็นกาลีจร ทุกอย่างไปได้ดี ไม่มีติดขัด แต่อีกไม่นานพฤหัสบดี ๕ จรเข้าเรือนมรณะก็พังทันที ศิษย์คนหนึ่งลัคนาราศีมีนศุกร์ ๖ มหาอุจจ์กุมลัคน์ ราหู ๘ จรอยู่ในเรือนสหัชชะ ผมเตือนไว้ว่าระวังการเงินจะติดขัด เขาสารภาพว่าไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ไม่กล้าค้าน พอราหู ๘ เข้าเมษก็เป็นจริง เขาเรียกราหู ๘ ค้นทรัพย์ มีเท่าไรหมด พอเงินหมด เข้าทับลัคนาที่อยู่ราศีมีนซ้ำอีก เป็นการบี้ครั้งสุดท้าย

250. ทว่าท่านจะทายอะไรก็ทายไปเถอะครับ ที่ลืมไม่ได้คือทักษา เอามาทั้งเดิมและจร เพราะการทายดวงแบบนี้ต้องพึ่งพาอาศัยทักษาเป็นหลัก ใครไม่ใช้ทักษาจะทายผิด ทักษาที่ว่านี้ ถ้าลงรายละเอียดไปถึงทักษาจรเดือน-วันได้ยิ่งดี

251. การทายจรที่กล่าวมา มีคนจำนวนมาก เขาถามตั้งตัวได้เมื่อไหร่ เรื่องการตั้งตัวคือการสร้างฐานะของครอบครัวมั่นคงเป็นปึกแผ่น มีบ้าน มีที่อยู่ มีรถใช้ มีเงินเก็บมี ทุนให้บุตรหลานเรียน อะไรเหล่านี้ เราใช้ดาวประจำตรีวัยเข้ามาจับ  ดาวประจำตรีวัย ๆ หนึ่ง 8 ปี 4 เดือน

252. ที่ว่า “ตรีวัย” บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่ามันคืออะไรกัน ต้นตอเกิดจากอะไร เกี่ยวข้องกับดวงชะตาได้อย่างไร โดยเฉพาะในวงโหราศาสตร์ธรรมดา ผมเองก็ไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึงหรือนำมาสอนกันบ่อยนัก ทั้งที่ “ตรีวัย”สำคัญไม่น้อย สามารถบ่งบอกได้ว่า การตกต่ำหรือรุ่งเรือง มิได้เป็นแค่บทบาทของดาวบาปพระเคราะห์เสาร์ ๗ หรือราหู ๘ เท่านั้น “ตรีวัย” มีส่วนในการแสดงบทบาทได้ชัดเจน

253. ถ้าจะว่ากันตามตัวหนังสือ คือวัยทั้ง 3 ของคนเรา  คล้าย ๆ กับที่เราแบ่งวัยเป็นวัยเด็ก วัยหนุ่ม วัยกลางคน วัยแก่หรือที่ดัดจริตเรียกกันว่า สูงวัยนั่นเอง

254. “ตรีวัย”ตามหลักของโหราศาสตร์ แบ่งออกเป็น ปฐมวัย มัชฌิมวัย ปัจฉิมวัย มีวัยเทียบเป็นวัยสุดท้าย เอาไว้เทียบว่า 3 วัยแรกว่าดีจริงหรือเปล่า?

255. แต่ละวัยแบ่งออกวัยละ 25 ปี คือวัยต้น 1-25 วัยกลาง 25-50 วัยปลาย 50-75 วัยเทียบ 75-100

256. การหาดาวประจำตรีวัย ให้เอาดาวเจ้าเรือนของ”ตนุเศษ” ในดวงชะตา มาเป็นดาวประจำแต่ละวัย

257. เช่นปฐมวัยใช้ดาวเจ้าเรือน ตนุ กะดุมพะ กรรมะ

258. มัชฌิมวัย ใช้ดาวเจ้าเรือน สหัชชะ ศุภะ ลาภะ

259. ปัจฉิมวัย ใช้ดาว พันธุ ปุตตะ ปัตนิ

260. วับเทียบ ใช้ดาวเจ้าเรือน อริ มรณะ วินาสน์

261. ถ้าจะเฉลี่ยกันไปตามดาวประจำตรีวัยในแต่ละวัย ก็จะได้ดาวละ 8 ปี 4 เดือนพอดี

262. จะขอยกตัวอย่าง ในดวงชะตาของใครก็ตาม ดาวเจ้าเรือน ตนุ  กะดุมพะ กรรมะ หรือดาวใดดาวหนึ่งไม่เป็นดาวกาลกิณีวันเกิด  และได้ตำแหน่งเป็นมหาอุจจ์ มหาจักร ราชาโชค เกษตร ทำมุมดีกับลัคนา คือไม่เป็นอริมรณะวินาสน์ คนนั้นวัยต้น ๆ ของชีวิตดีตลอด ไม่ตกระกำลำบาก

263. ถ้าดาวเจ้าเรือนสหัชชะ ศุภะ ลาภะ ของใครก็ตาม ไม่เป็นกาลกิณีกำเนิด และเป็นมหาอุจจ์ มหาจักร ราชาโชค เกษตร ทำมุมดีกับลัคนา คือไม่เป็นอริมรณะวินาสน์ คนนั้นวัยกลางชองชีวิต จาก 25-50 รุ่งเรืองดี

264. ถ้าดาวเจ้าเรือน พันธุ ปุตตะ ปัตนิ ของใครก็ตาม ไม่เป็นกาลกิณีกำเนิด  เป็นมหาอุจจ์ มหาจักร ราชาโชค เกษตร คนนั้นวัยปลายของชีวิต 50-75 รุ่งเรืองดี ไม่เดือนร้อน คือสบายตอนแก่นั่นเอง

265. ทีนี้ถ้าดาวเจ้าเรือน อริ มรณะ วินาสน์ ของใครก็ตามดี คือเป็นมหาอุจ มหาจักร ราชาโชค เกษตร และไม่เป็นกาลกิณีกำเนิด ตอนอายุ 75-100 อยู่เย็นเป็นสุขทุกประการ มีบุตรหลานคอยดูแลดี จะเห็นว่าบุตรหลานแย่งกันเข็นรถให้นั่ง ไม่ต้องเดินห้างฯให้เหนื่อย ถ้าวัยนี้ไม่ดีก็เป็นชาวบางแคแน่นอน

266. จากบทเรียนที่ผ่านมา ผมได้ใช้คำพูดว่า มหาอุจจ์ มหาจักร ราชาโชค และเกษตร ไว้มากมาย  แต่ลืมบอกว่า ดาวอะไรอยู่ตรงไหน จึงเป็น มหาอุจจ์ มหาจักร ราชาโชคและเกษตร หรือถ้าจะเรียกรวม เรียกว่าดวงได้มาตรฐานดี ถ้ามาตรฐานไม่ดี คือดวงนิจ ประ

267. ข้อนี้ผมจะกล่าวถึงดาวที่เป็นเกษตร หรือที่เรียกว่า “ดวงเกษตร” ซึ่งถือเป็นดวงหลักของโหราศาสตร์ทุกระบบ

268. ดวงเกษตร มีดังนี้ ๓ สถิตราศีเมษ ๖ สถิตราศีพฤษภ ๔ สถิตราศีมิถุน ๒ สถิตราศีกรกฎ ๑ สถิตราศีสิงห์ ๔ สถิตราศีกันย์ ๖ สถิตราศีตุลย์ ๒ สถิตราศีพิจิก ๕ สถิตราศีธนู ๗ สถิตราศีมังกร ๘ สถิตราศีกุมภ์ ๕ สถิตราศีมีน

269. ดวงประ ดวงนี้ตรงกันข้ามกับดวงเกษตรซึ่งหมายถึงดวงหลักในวิชาโหราศาสตร์ ดวงประ เป็นดวงที่หมายถึงความอ่อนแอ ดาวที่เป็นประไม่ค่อยให้คุณ เว้นที่เป็นดาวร้ายให้โทษ ตำแหน่งดาวทุกดาวจะอยู่ตรงกันข้ามกับดวงเกษตรเช่น ๓ จากราศีเมษไปอยู่ตุลย์ ๖ จากราศีตุลย์ไปอยู่เมษ ๖ จากราศีพฤษภไปอยู่ราศีพิจิก ๓ จากราศีพิจิกไปอยู่ราศีพฤษภ ๔ ราศีมิถุนไปอยู่ราศีธนู ๕ ราศีธนูไปอยู่ราศีมิถุน ๒ ราศีกรกฎไปอยู่ราศีมังกร ๘ ราศีมังกรไปอยู่รากรกฎ ๑ ราศีสิงห์ ไปอยู่ราศึกุมภ์ ๘ จากราศีกุมภ์ไปอยู่ราศีสิงห์ ๔ จากราศีกันย์ไปอยู่ราศีมีน ๕  จากราศีมีนไปอยู่ราศีกันย์ ๖ จากราศีตุลย์ไปอยู่ราศมีเมษ ๓ จากเมษมาอยู่ราศีตุลย์ ดังนี้

270. ดวงมหาอุจจ์ ดวงมหาอุจจ์ถือกันว่าเป็นดวงที่เข้มแข็งที่สุดในบันดาดวงมาตรฐานดี ดวงของท่านใดมีดาวมหาอุจจ์มากยิ่งดี จะสูงส่งทั้งเกียรติยศเงินทองชื่อเสียง ดวงดังกล่าวดาวจะอยู่ในตำแหน่งดังนี้ ๒ สถิตราศีพฤษภ ๑ สถิตราศีเมษ ๖ สถิตราศีมีน ๕ สถิตราศีกรกฎ ๓ สถิตราศีมังกร ๔ สถิตราศีกันย์ ๗ สถิตราศีตุลย์ ๘ สถิตราศีพิจิก

271. ดวงนิจ เป็นดวงที่ตรงกันข้ามกับมหาอุจจ์ คืออาทิตย์ ๑ สถิตราศีตุลย์  เสาร์ ๗ สถิตราศีเมษ จันทร์ ๒ สถิตราศีพิจิก ราหู ๘ สถิตราศีพฤษภ พฤหัสบดี ๕ สถิตราศีมังกร อังคาร ๓ สถิตราศีกรกฎ ๔ สถิตราศีมีน ๖ สถิตราศีกันย์  ที่ว่าตรงกันข้ามกับมหาอุจจ์นั่นคือ ที่บอกว่าสูงส่งทั้งเกียรติยศเงินทองชื่อเสียง จะกลายเป็นต่ำต้อยในเรื่องดังกล่าวทันที

272. ดวงมหาจักร เป็นดวงมาตรฐานดีอีกประเภทหนึ่ง ที่มีความผันผวนปรวนแปรง่าย คือดีเด่นง่าย แต่ก็เวลาตกก็ตกอย่างที่คิดไม่ถึงเช่นกัน แต่ที่ตกน้อยเต็มที มีแต่จะดีอย่างไม่คาดคิด ในด้านดีเป็นรองดวงมาตรฐานดีมหาอุจจ์ ดาวสถิตอยู่ในราศีต่าง ๆ ดังนี้ อาทิตย์ ๑ ต้องสถิตราศีกรกฎ จันทร์สถิตราศีเมษ อังคาร ๓ สถิตราศีกันย์ พุธ ๔ สถิตราศีสิงห์ พฤหัสบดี ๕ สถิตราศีพิจิก ศุกร์ ๖ สถิตราศีธนู เสาร์ ๗ สถิตราศีพฤษภ ราหู ๘ สถิตราศีมังกร

273. ดวงราชาโชค เป็นดวงมาตรฐานดีอีกประเภทหนึ่ง แต่การให้คุณมั่นคงพอใช้ ไม่มีตก เน้นการมีผู้นิยมชมชอบ คุณภาพการให้คุณรองลงมาจากดวงมหาจักร ดวงราชาโชคบางท่านนิยมเรียกกันว่าดวงยาม มีดังนี้ อาทิตย์ ๑ สถิตราศีเมถุน จันทร์ ๒ สถิตราศีกันย์ อังคาร ๓ สถิตราศี พฤษภ พุธ ๔ สถิตราศีสิงห์ พฤหัสบพี ๕ สถิตราศีเมษ ศุกร์ ๖ สถิตราศีกรกฎ เสาร์ ๗ สถิตราศีพิจิก ราหู ๘ สถิตราศี ตุลย์

274. ในบรรดาดวงมาตรฐานดี มหาอุจจ์ มหาจักร ราชาโชค เกษตร ให้คุณดีเด่นเรียงกันตามลำดับ เกษตรเป็นดวงหลักก็จริง แต่มาที่โหล่ เวลาขึ้นไม่มากจนสดุดตา แต่ไม่ตกถึงขั้นแตกละเอียด

275. สำหรับดวง ประ และนิจ เป็นดวงที่ทำให้ดาวดีขาดกำลังในการให้คุณด้านดี แต่ถ้าเป็นดาวกาลกิณี หรือดาวที่จัดอยู่ในประเภทบาปเคราะห์ เป็นประเป็นนิจ ลดการให้โทษลง

276. ทั้งหมดที่กล่าวถึงดวงมาตรฐานดีและมาตรฐานไม่ดี ท่านควรจำได้ขึ้นใจ ถ้ายังจำไม่ได้ก็ควรทำโน๊ตช่วยจำพกพาใส่กระเป๋าไปเสมอ ว่างเอามาทบทวน ไม่นานก็จะจำได้ เพราะผมเองตอนเริ่มต้นก็ทำมาอย่างที่ว่า

277. ทีนี้อาจจะยังมีบางท่านที่ยังไม่รู้จะเอาดวง 6 ประเภทนี้ไปใช้เมื่อไร หรือเขียนเอาไว้โก้ ๆ  ไม่หรอกครับถ้าใช้เป็นได้ผลมากเลย

278. การใช้งานให้ทำดังนี้คือ เมื่อท่านผูกดวงของใครแล้ว ดูดาวทั้งหมดในดวงชะตาของเขาว่าดาวอะไรอยู่ในตำแหน่งมหาอุจจ์ มหาจักร ราชาโชค เกษตร นิจ ประ แล้วกำหนดไว้ในใจว่า ดาวตัวไหนดีหรือไม่ดีเกี่ยวกับอะไร อย่างเช่นดาวพุธ ๔ ของเขาในดวงชะตาเป็นประกุมลัคน์ และเป็นดาวเจ้าเรือนปัตนิ ถ้าคนนั้นเกิดวันเสาร์ เราทายได้ว่าคนนั้นพูดไม่ค่อยเข้าหูคน หรือพูดแบบมะนาวหน้าแล้ง แถมได้คู่เป็นของเก่าหรือของมีตำหนิ ต้องเดือดร้อนเพราะคู่อย่างไม่มีกำหนด จะเลิกก็เลิกไม่ได้ เพราะกุมลัคน์ มีทางออกทางเดียวคือตายไปเกิดใหม่

279. ตามที่สมมุติมาในข้อ 278 นี้แหละ เขาเกิดวันเสาร์ ดาวศุกร์ ๖ เขาเป็นศรี และมีตำแหน่งเป็นมหาอุจจ์ กุมลัคน์ และเป็นดาวเจ้าเรือนปัตนิ ก็เท่ากับได้คู่ป้ายแดงที่ดี มีฐานะหน้าที่การงานและการเงินดีด้วย

280. มีบางท่านเกิดมาบุญวาสนามาก โดยเฉพาะสุภาพสตรี ดาวเจ้าเรือนปัตนิ เป็นศรีเดิมในทักษา เป็นมหาอุจจ์ สถิตอยู่ในเรือนการงานบ้าง ลาภะบ้าง แบบนี้สบายตัวไปร้อยชาติพันชาติ ไม่ต้องทำอะไรมาก

 

281. ทีนี้มาถึงเรื่องของ "องค์เกณฑ์" ตามตำนานเขาบังคับดาวที่จะมาเป็นองค์เกณฑ์เอาไว้ แต่ตามแบบของผมไม่บังคับ เพราะดาวทุกดาวเป็นลัคนาอยู่ในตัวของมัน ย่อมเข้มแข็งดีอยู่แล้ว การที่ดาวใดเป็นองค์เกณฑ์ หมายถึงการเป็นองค์เกณฑ์แก่ "ลัคนา" อาทิตย์ ๑  ลำพังดาวต่อดาวก็พอใช้ได้ แต่ยังไม่เข้มแข็งพอหรือเท่าเป็นแก่ลัคน์ ๑

282.ท่านอาจจะถามว่าแล้ว "องค์เกณฑ์" เอาไว้ทายอะไรได้บ้าง ทายพื้นดวงได้ว่า แข็งแรงหรือไม่ ดาวที่ดีเป็นองค์เกณฑ์ถือกันว่าดี ถ้าดาวกาลีหรือนิจประเป็นองค์เกณฑ์ก็ไม่ดีนัก ดีหรือไม่ดีเรื่องอะไร ก็ต้องดูจากดวงจริงจะง่ายกว่ากันมาก หากจะพอสมมุติว่า ท่านใดท่านหนึ่งมีดาวกาลีเป็นองค์เกณฑ์ เช่นเกิดวันพฤหัสบดี ๕  ลัคนาราศีพิจิก มีดาวเสาร์ ๗ เล็ง แบบนี้มีสิทธ์เป็นโรคประสาท คือเครียดง่าย นอนไม่หลับ นอกจากทายพื้นดวงได้ ยังเป็นต้นตอในการหาลัคนาจรได้ด้วย 

283. ขออธิบายว่า การแบ่งแต่ละราศีออกเป็นราศีองค์เกณฑ์ มาจากสัญลักษณ์ของราศี ถ้าราศีที่มีสัญลักษณ์เป็นคน ก็ถือว่าเป็นเกณฑ์ 1 ถ้าเป็นสัตว์น้ำ เกณฑ์ 4 แมลง 7 สัตว์สี่เท้า 10

284. มีดังนี้คือราศี  มิถุน กันย์ ตุลย์ ธนู กุมภ์ เป็นนระ ราศีกรกฎ มังกร มีนเป็นอัมพุ ราศีพิจิก เป็นกีรฏะ นอกนั้นเป็นปัศวะ คือราศีเมษ พฤษภ สิงห์

285. ในแต่ละเกณฑ์ คือ นระ อัมพุ กีรฏะ ปัศวะ จะมีจำนวนอายุบังคับไว้ในแต่ละราศี จากราศีเมษจนถึงราศีมีนทุกเกณฑ์ เช่น นระ 4+4+5+7+4+5+5+10+5+7+5+7 อัมพุ  3+3+4+6+3+4+4+9+4+6+4+6 กีรฏะ 5+5+6+8+5+6+6+11+6+8+6+8 ปัศวะ 2+2+3+5+2+3+3+8+3+5+3+5

 

286. ที่เกิดมีลัคน์จรขึ้นมา เพราะเหตุที่ว่า ท่านว่าสรรพสิ่งที่เกิดมาบนโลกย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไป ไม่มีอะไรคงทน นั่นผมเข้าใจว่ามันไม่มีอะไรเที่ยงนั่นเอง เช่นเกิดมาแล้วเป็นเด็กน่ารัก เป็นหนุ่มเป็นสาวยิ่งน่ารักมากขึ้น พอแก่ลงไปความน่ารักก็เริมเจือจางจนสลายไปในที่สุด ของใหม่ดีไปทุกอย่าง แต่นานวันไปก็ต้องเก่าเป็นธรรมดา เมื่อเก่าแล้วย่อมสลายไปตามวัฎฎจักร

287. แต่นี่มันเป็นลัคนาของคน มีเวลาเกิดหรือเวลาตกฟากเวลาเดียว ผมว่ามันอยู่ตรงไหนก็น่าจะอยู่ตรงนั้น โดยเฉพาะ 10 ลัคนา ถ้าให้ลัคนาอาทิตย์ ๑ อันเป็นหลักเคลื่อนที่ไปตามองค์เกณฑ์ได้ ลัคนาของดาวอื่นล่ะ ก็ต้องเคลื่อนที่ไปด้วยสิถึงจะถูก แล้วพอมันเคลื่อนไปทั้ง 12 เรือนชะตามันก็ต้องเคลื่อนตามกันเป็นขบวน ดูแล้วน่าสนุก

289. ทว่าผมไม่เอาตามที่เขาว่านะครับ ผมถือว่า คนเราชะตามันเปลี่ยนแปลง ไปตามการโคจรของดาว ทั้งทักษา ตรีวัยอะไรพวกนี้ มันก็ทำให้คนชะตาเปลี่ยนแปลงได้ดีสมเหตุสมผลของมันอยู่แล้ว คือมีดีก็มีร้าย มีขึ้นก็มีลง

290. ส่วนใครจะนำไปใช้ก็เชิญตามสบายนะครับ

291. ผมจะบอกวิธีนำไปใช้ให้ ดังนี้ เช่นคนราศีนระเกณฑ์ 1 เวลานับหาลัคน์จรก็ดูตามเกณฑ์ที่บังคับไว้ในข้อ 285 ก็แล้วกัน คือบวกจำนวนอายุย่างไปตกราศีใด หมายถึงลัคนาจรตอนนั้นอยู่ที่ราศีนั้น เช่นเป็นมีลัคนาสถิตราศีเมษ เป็นราศีประเภทปัศวะ หาลัคนาจรตอนอายุ 15 ก็เท่ากับ 2+2+3+5+2+3 เท่ากับ 17 ลัคนาจร สถิตราศีกันย์อีก 2 ปีก็ย้ายเข้าราศีพิจิก ดังนี้

292. มีคำพยากรณ์พื้นดวงไว้ดังนี้ ลัคนากำเนิดตกปัศวะแรกจะเกิดโรค ทุกข์ เดือดร้อน จะพลัดพรากจากที่อยู่ ผู้ใหญ่จะเบียดเบียนตน

293. ลัคนากำเนิดตกนระ เมื่อแรกจะได้ช้างมาข้าคน ลูกเมียและยศศักดิ์ ท่านจะบูชา จะได้ลาภแต่สถานบ้านเมืองไกล

294. ลัคนากำเนิดตกอัมพุ เมื่อแรกจะเจ็บไข้ แต้นเคืองด้วยลูกเมีย จะตายจากกัน จะเป็นความ ท่านจะกล่าวโทษ จะจากที่อยู่ไปไกล ให้ระวังจะเกิดไฟ โจรจะปล้น ข้า คน จะหนี วัวควายจะตาย ช้างม้าจะหาย จะเป็นทุกขลาภแล

295. ลัคนากำเนิดตกกีรฏะ ท่านผู้ใหญ่จะตกแต่งให้อลังการณ์กว่านั้น ดุจจรตกนระ

296. จะเห็นว่าถ้าลัคนากำเนิดตกนระและกีรฏะ สารพัดดี นอกนั้นไม่ได้เรื่อง

297. สำหรับ"พยากรณ์ลัคนาจร"ขอท่านไปหาอ่านเองดีไหมครับ์ ผมขี้เกียจลอกมาลง

298. ตอนแรกผมคิดว่าจะไม่คัดลอกมาให้ คิดไปคิดมา กลัวถูกด่าลับหลัง ว่าทีเรื่องไม่เป็นเรื่องนำมาบอกกล่าวกัน พอเรื่องที่พอจะเป็นเรื่องกลับอุบไว้คนเดียว หรือกลัวคนอื่นเก่งกว่า?

299. พอคิดมาถึงตรงนี้ก็เลยคัดมาให้ดูชมกันดังนี้

300. ถ้าลัคนาจรมาถึงราศีเมษ ประดุจนกปีกหัก จะคิดการสิ่งใดสมความปราถนา แล้วจะวิบัติต่าง ๆ ภัยสามประการแล้วเกิดโรคด้วย

301. ถ้าลัคนาจรมาถึงราศีพฤษภ เปรียบประดุนกพิราปอยู่บนปรางค์ปราสาท จะอดอาหารและลาภสักการทั้งปวง สารพัดคิดการณ์ไม่สมความปราถนา แต่ทว่าศัตรูทำร้ายไม่ได้

302. ถ้าลัคนาจรมาถึงราศีเมถุน ได้เมื่อนกไส้หมายจะฆ่าช้างสาร สารพัดลาภสักการทั้งปวง เห็นจะได้มาก ก็สูญหายกลับกลายเป็นน้อย แต่ศัตรูปองร้ายเป็นอันมาก

303. ถ้าลัคนาจรถึงราศีกรกฎ  เปรียบประดุจนกไส้ฆ่าช้างสารตาย จะต้องปราศจากที่อยู่แล้วจะเกิดความ จะเสียทรัพย์เพราะถ้อยคำของตนเอง และต้องจากยศศักดิ์ ต่อภายหลังตั้งความเพียรจึงจะได้ดีคืนที่ดังเก่าแล

304. ถ้าลัคนาจรถึงราศีสิงห์  เปรียบประดุจพระจันทร์  เมื่อวันดับลับไปแล้วคืนมาอีก ทรัพย์เข้าของทั้งปวงที่เสียไปก่อนนั้นจะกลับได้คืนมา สารพัดสัตว์สี่เท้าสองเท้าหนนีหายไปแต่ก่อน ก็จะกลับมาเอง

305. ลัคนาจรถึงราศีกันย์  เปรียบประดุจดังว่าไม้กาฝาก จะได้ลาภทั้งปวงบริบูรณ์ จะเกิดความสิ่งใดก็ได้ชัยชะนะด้วยผลความเพียรแห่งตนแล

306. ลัคนาจรถึงราศีตุลย์เปรียบประดุจไม้กาฝาก จะได้ลาภทั้งปวงบริบูรณ์ จะเกิดความสิ่งใดก็จะชะนะด้วยผลความเพียรตนแล

307. ลัคนาจรถึงราศีพิจิก เปรียบประดุจไม้แห้งนั้นมาเปรียบไม้สดนั้นมิได้ จะว่าความสิ่งใดไม่สมปราถนา ต้องปราศจากที่อยู่ จะต้องภัย 3 ประการ แล้วต้องเสียทรัพย์ทั้งปวง ร้ายนักระมัดจงดีเถิด

308. ลัคนาจรถึงราศีธนู เปรียบประดุจนกพิราปเขาเอาใส่ในเคหาท่าน สาระพัดจะอดอาหารทั้งปวง ทำความเพียรสิ่งใด ๆ เป็นที่ดีแห่งท่านทั้งหลาย

309. ลัคนาจรถึงราศีมังกร เปรียบอุปมาดังหิรัญญวดีไปเที่ยวหาคู่ คิดสิ่งใดได้สมความปราถนา แล้วจะได้ลาภสัตว์ 4 เท้า 2 เท้า จะทำการสิ่งใดประสิทธิ์นักแล

310. ลัคนาจรถึงราศีกุมภ์ ได้เมื่อพญาหงส์ทองต้องบ่วง ต้นมือเป็นทุกข์ปลายมือจะดีแล

311. ลัคนาจรถึงราศีมีน ได้เมื่อศุภมิตร ต้นมือนั้นร้ายปลายมือดีมีลาภแล

312. ตามตำนานท่านกล่าวว่าลัคนาจรที่ว่ามามีขัดกันบ้างให้พิจรณาตามควร คือต้องใช้สมองคิดและตัดสินเอาเอง ผมมีหน้าที่เอามาแจ้งให้ท่าน เพื่อการศึกษาค้นคว้า แต่ผมเองไม่ค่อยได้ใช้นัก

313. เรื่องลัคนาจรยังไม่หมดแค่นี้ครับยังมีเกี่ยวกับพระเคราะห์จรอีก ตามตำนานท่านว่าไว้ดังนี้ ถ้า ๑๓๕๗๘ จรมาทับลัคนาจรให้ทายดุจลัคนากำเนิด

314. อนึ่งลัคนาจรตกที่ดีแล้ว ให้นับลัคนากำเนิดไป ถ้าเป็น 3.4.5.9.11 แก่ลัคน์จร ให้เจริญยิ่ง ถ้าไม่เป็นให้ถอยทรัพย์แล

315. หากลัคนาจรตกราศีอันร้าย ให้นับแต่ลัคนากำเนิดไป ถ้าเป็น 2.3.5.7.11 แก่ลัคนาจร ผู้นั้นถ้าโทษร้ายเป็นทุกขลาภ

316. ถ้าลัคนาจรมาตกที่ลัคนากำเนิด ผู้นั้นร้ายนักจะเกิดความ ให้เกรงเถิด

317. เรื่องของเกณฑ์ต่าง ๆ วิธีหากาลจักรลัคน์จร ตลอดจนคำพยากรณ์ที่ผมได้ศึกษามีเท่าที่เห็นอยู่นี่แหละครับ ผมยอมรับว่าไม่ได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เเละไม่ได้เอามาใช้ เพราะเท่าที่มีอยู่ก็เหลือเฟือในการทาย

318. จากข้อ 300 เป็นต้นมาจนถึงข้อ 311 เป็นเรื่องของลัคนาจรมาถึงราศีต่าง ๆ คำพยากรณ์ก็จถะเป็นตามนั้น อย่าได้สับสนเป็นอันขาด

319. สำหรับในข้อนี้ ผมจะกล่าวถึงลัคนาจรตกในราศีทั้ง 4 คือลัคนาจรตกราศี นระ อัมพุ กีรฏะ ปัศวะ

320. หมายถึงว่าคุณมีลัคนากำเนิดอยู่ในราศีประเภทใดก็ตาม เมื่อหาลัคนาจร อาจจะตกราศีประเภทอื่นได้ เช่นคุณมีลัคนาสถิตในราศีเมษ ประเภทปัศวะ อายุ 20 ปี ลัคนาจรจะตกราศีตุลย์ ซึ่งราศีประเภทนระดังนี้

321. คำพยากรณ์มีว่า ลัคนาจรตกราศีปัศวะ เมื่อแรกถึงนั้น จะเกิดทุกข์โรคเดือดร้อน จะพลัดพรากจากที่อยู่เหย้าเรือน  ผู้ใหญ่จะเบียดเบียฬ ครั้นเมื่อออกให้โทษเหมือนเมื่อแรกถึงนั้นแล นั่นหมายถึงเมื่อเข้าใหม่ ๆ อายุจะย่าง 18 ไม่ดี อายุย่าง 20 ก็ไม่ดี คือไม่ดีทั้งตอนเข้าและตอนออกนั่นเอง

322. ถ้าลัคนาจรตกนระ เมื่อแรกถึงจะได้ช้างม้าข้าคนและลูกเมีย และยศศักดิ์ ท่านจะบูชา จะได้ลาภแต่สถานบ้านเมืองไกล แต่เมื่อออกจะให้โทษน้อยหนึ่งแล

323. ถ้าลัคนาจรตกอัมพุช เมื่อแรกถึงจะเจ็บไข้ แค้นเคืองด้วยลูกเมีย จะตายจากกัน  จะเป็นความท่านจะใส่โทษ จะจากที่ไปไกล ให้ระมัดจะเกิดไฟ โจรจะปล้นข้าคนจะหนี วัวควายจะตาย ช้างม้าจะหาย จะเป็นทุกข์ลาภแล ข้อนี้ตอนแรกไม่ดี ตอนจะออกไม่ได้บอกไว้ว่าดีหรือร้าย

324. ถ้าลัคนาจรตกกีรฏ ท่านผู้ใหญ่จะตกแต่งให้อลังการ กว่านั้นดุจจรตกนระแล นั่นหมายถึงว่าคล้ายจรตกนระคือตอนแรกดี ตอนหลังจะมีโทษแต่ไม่มาก

 

325. ตอนนี้ขอสลับด้วย"ดวงตัวอย่าง"ที่น่าสนใจ เพราะกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขการพยากรณ์ก็ได้พูดมาจนหมดไส้พุงแล้ว ให้หันมาดูแนวทางการทายเพื่อให้ถูกกันบ้าง

การทายให้ถูกจนเป็นที่ยอมรับของผู้มาให้เราพยากรณ์ เป็นของไม่ยาก ถ้าแต่ละท่านยึดมั่นตามกฎเกณฑ์ที่กล่าวมา การทายถูกผมว่าคงเป็นสิ่งพึงปรารถนาของโหรทุกท่าน เพราะนอกจากจะได้เงินค่าทายแล้วยังได้รับความเชื่อถืออีกด้วย เมื่อได้รับความเชื่อถือมากขึ้น ก็มิสิทธิ์ยกตัวเองขึ้นมาเป็นโหรฟันธงหรือโหรคอนเฟิร์มได้โดยไม่ยาก

326. ดวงที่จะนำมาเป็นตัวอย่างมีดังนี้:- เจ้าชะตาเป็นหญิงมาให้ผมพยากรณ์ประมาณต้นปี 2551 เธอเป็นหญิงเกิดตรงกับวันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2514 เวลาตกฟาก 07.19 น. จังหวัดเกิดคือพัทลุง

327. รูปร่างหน้าตาดวง10ลัคนาของเธอเป็นดังนี้ ๑๒๔ สถิตราศีเมษ ๑ เป็นตนุเศษ ๗ สถิตราศีพฤษภ ๙ สถิตราศีสิงห์ ๐ สถิตราศีกันย์ ๕ สถิตราศีพิจิก ๘๓ สถิตราศีมังกร ๖ สถิตราศีมีน ก่อนอ่านข้อ 328. ควรหากระดาษดินสอมาเขียนรูปดวง จะได้เห็นชัดเจน เพราะผมจะพยายามทายในทุกซอกทุกมุมที่ดาวบ่งบอกไว้ และดวงนี้ก็เป็นดวงล่าสุดที่ผมมีอยู่ในมือ เกือบจะเรียกว่า 1 ใน 10000 ดวง จึงจะได้สักดวงหนึ่ง

328. ตามดวงทักษา เมื่อเธอเกิดวันเสาร์ดาวพุธ ๔ จะเป็นดาวกาลกิณีประจำวันเกิด ดาวศุกร์ ๖ จะเป็นดาวศรีวันเกิดตามกฎที่ว่า ดาวที่เป็นคู่ธาตุกัน เมื่อดาวดวงหนึ่งเป็นกาลกิณี อีกดวงหนึ่งต้องเป็นศรี ตรงนี้ผมไม่พูดมาก ไม่เชื่อผมก็ลองเขียนดวงทักษาขึ้นมาดู

329. ดาว ๑๒๔ สถิตราศีเมษธาตุไฟชั้น 1 ว่ากันแล้วราศีเมษ ดาวเจ้าเรือนหรือดาวเจ้าราศีคือพระอังคารท ๓ ดาวอังคาร ๓ เป็นดาวมนตรีของคนเกิดวันเสาร์ ดังนั้นคนเกิดวันเสาร์ เมื่อต้องมามีลัคนาสถิตราศีนี้ ก็เท่ากับว่ามาอยู่ในเรือนมนตรี มาอยู่ในบ้านของคนที่เคยอุปถัมภ์ค้ำจุนกันมา และเจ้าของบ้านก็ไปครองราศีมังกร มีตำแหน่งเข้มแข็งเป็นมหาอุจจ์ เป็นราศีที่ 10 ของเกณฑ์ปัศวะพอดี จึงทำให้พระอาทิตย์๑ ที่เป็นลัคนาอยู่แล้วเข้มแข็งมากขึ้น

330. อาทิตย์ ๑ ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์ ชื่อเสียงดี ใจร้อนเพราะพระอาทิตย์๑ เป็นดาวธาตุไฟมาอยู่ในราศีธาตุไฟชั้น 1 แถมมีดาวเจ้าเรือนคืออังคาร๓ ตุลมคอยกระพือ จันทร์๒ มหาจักรกุม รูปร่างหน้าตาสวย มีเสน่ห์ อ่อนไหวง่าย พุธ๔ กาลกิณีมีจันทร์ ๒ เป็นคู่มิตร พูดจาดีพอสมควร แม้ไม่หวานจ๋อยเหมือนเป็นศรี อีกประการหนึ่งพระพุธ๔ กับพระอังคาร๓ เป็นดาวที่มึนตึงต่อกันตามทักษา คือพระอังคาร๓ เป็นกาลกิณีของพระพุธ๔  เมื่อพุธ๔ ต้องมาอยู่ในเรือนอังคาร๓ จึงร้ายมากไม่ได้

331. ตรงนี้ผมอยากย้ำเตือนน้องใหม่สักนิดว่าอย่าเป็นคนใจร้อนหรือใจง่ายเป็นอันขาด พอเห็นพระพุธ๔ เป็นกาลีแล้วทายว่าเขาปากหมา ต้องดูให้รอบคอบว่าพุธ๔ ตัวนั้นมันไปอยู่ตรงไหน ถ้าไปอยู่ในที่ไม่ควรก็อย่าทายร้ายนัก เพราะหมาแม้จะดุอย่างไรบางทีพอผิดถิ่นไปในที่ที่ยังไม่เคยก็จ๋อยได้เหมือนกัน

332. ที่ดีที่สุดคือต้องดูให้หลากหลายมุมมอง อย่าด่วนทายในสิ่งที่ยังเห็นไม่ชัด โดยเฉพาะเรื่องร้าย ๆ ขอท่านอย่าลืมว่าดาวทั้งหมดที่เราเอามาทาย มีทั้งที่เป็นมิตรเป็นศัตรู เสริมกำลังให้แก่กัน เสริมธาตุให้แก่กัน ทั้งที่เป็นธาตุของดาวและธาตุของราศี ดังนั้นต้องใจเย็นและรอบคอบ ให้ดูแนวทางที่ผมวิเคราะห์ อย่าลืมว่าถ้าท่านเก่งกว่าผม ๆ จะดีใจมาก เพราะนั่นแสดงว่าคำสอนของผมมีค่า แต่ถ้าคำสอนไม่ว่าจากปากหรือตัวหนังสือไม่สามารถทำให้ท่านเป็นโหรเก่งหรือดังได้ นั่นแสดงว่าผมไร้น้ำยา นี่คือความจริง !!!

333. เพราะมุมมองของผม ครูถ้าสอนศิษย์ ๆ โง่ ครูก็โง่ด้วย ถ้าสอนศิษย์ ๆ เก่ง ฉลาดครูคนนั้นก็เก่งด้วย ผมไม่กลัวคำว่าศิษย์คิดล้างครู ใครล้างผมได้เชิญครับ ผมจะได้สอาดเสียที สกปรกมานานแล้ว

334. ทีนี้กลับมาเรื่องดวง การมองดาว ๑x๒๔ ที่สถิตในราศีเมษยังไม่หมด ดังเช่น พระอาทิตย์๑ เป็นดาวมูลละตามทักษาเดิม เป็นเจ้าเรือนปุตตะ นั่นแสดงถึงว่าคนนี้ต้องมีมรดก เพราะดาวมูลละได้ตำแหน่งมหาอุจจ์กุมลัคน์ มีบุตรหลานดีเพราะดาวเจ้าเรือนปุตตคืออาทิตย ๑ ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์

335. พระเคราะห์จันทร์๒ เป็นดาวเจ้าเรือนอุตสาหะ เป็นดาวเจ้าเรือนพันธุ ดังนั้นเธอคนนี้นอกจากสวย มีเสน่ห์ มีชื่อเสียง ใจร้อน อ่อนไหวง่าย ยังเป็นคนมีความเพียรในหน้าที่การงานดี และมาจากตระกูลที่ดีมีฐานะในสังคม

336. ทีนี้มามองกันที่ดาวพุธ๔ เป็นดาวกาลกิณีเดิม เป็นดาวเจ้าเรือนเพื่อน และมาจากเรือนอริ เราก็ทายได้ว่าเธอมีเพื่อนมากก็จริง แต่ล้วนไม่จริงใจ พึ่งไม่ได้ บางคนก็มาเป็นศัตรูเสียด้วย

337. ถัดมาก็เป็นดาวเสาร์๗ เป็นดาวบริวารของเธอ ได้ตำแหน่งมหาจักร นั่นคือมีบริวารดีพอใช้ เพราะดาวบริวารอยู่ในเรือนศรีเป็นประการสำคัญ แต่เสาร์๗ เมื่อต้องมาอยู่ในราศีที่ศูกร์๖ เป็นเจ้าของบ้านเจ้าของเรือนมันไม่ดีนัก เข้าทำนอง "ศุกร์๖ เจ็ด๗(เสาร์)อาจารย์เจ้าว่าร้อนนิรันดร์" คือเสียเรื่องของความรักเพราะ ๖๗ เป็นดาวทำให้อกหักรักขม และเสาร์๗ ตัวนี้ก็มาจากเรือนกรรมะทั้งของลัคนาและตนุเศษ ดังนั้นการงานก็ไปได้ดีพอสมควร แม้จะเหนื่อยและเจออุปสรรคมากหน่อย ถ้าทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เช่นบ้านที่ดินอาคารเหมืองแร่ เครื่องจักร น้ำมันจะดีเพราะดาวเสาร์๗ หมายถึงสิ่งเหล่านี้

338. เกตุ ๙ เป็นดาวที่ไม่มีเรือนหรือบ้านครอบครองทั้งในดวงทักษาและดวง 12 ราศีจักร ดังนั้นปัญหาจึงน้อย เกตุ๙ ตามหลักทายว่าสุขกาย เมื่อมาอยู่ในเรือนปุตตะ มีบุตรจะเป็นคนมีไหวพริบดี ฉลาด และมีเกณฑ์ได้ลูกแฝดด้วย เคยเห็นมาหลายคน

339. มฤตยู ๐ เป็นดาวทำลายที่มีอานุภาพรุนแรง เมื่อมาอยู่ในเรือนอริ ก็ช่วยทำลายศัตรู เรียกว่าถึงจะมีศัตรูบ้างก็ไม่น่าเกรงขาม เป็นคนมีศัตรูน้อย มักชนะศัตรู

340. ดาวพฤหัสบดี ๕ ครองเรือนมรณะ ฉลาดเรียนหนังสือเก่งอย่างน้อยต้องจบโทหรือเอก เมื่อเกิดวันเสาร์ ดาวพฤหัสบดี ๕ ก็เป็นดาวอายุ แต่ได้ตำแหน่งมหาจักร จึงทำให้เป็นคนสุขภาพไม่ดีแต่อายุยืน คือป่วยง่ายตายยากนั่นเอง เป็นดาวเจ้าเรือนศุภะด้วยจึงทำให้สวัสดิภาพของชีวิตรุ่งเรืองได้โดยไม่ยาก สามารถประสบความสำเร็จด้านการงานในระดับดี ที่ราศีมีนเป็นวินาสน์ ก็เข้าทำนองเดียวกันคือปฏิภาณไหวพริบดี

341. ราหู๘ เป็นดาวมหาจักร เป็นดาวเดชทำให้เป็นคนน่าเกรงขาม มาจากเรือนลาภะ ลาภผลจากการเสี่ยงมีเสมอ หากทำงานเกี่ยวกับต่างประเทศหรืองาน กลางคืน เปิดบาร์ ขายของมึนเมา เป็นเอเย่นเหล้าเบียร์ เปิดบ่อนการพนันดี ราศีนี้เป็นราศีของเสาร์ ๗ เพื่อนเก่ายิ่งมีกำลังดี พระอังคาร๓ มหาอุจจ์ยังช่วยเสริมกำลังให้อีกยิ่งแข็งแรงมากขึ้น

342. พระอังคาร๓ เป็นมหาอุจจ์ เป็นทหารดี นักกีฬาดี ขยันการงานดี แต่ความดีความชอบน้อย เพราะอีกเรือนเป็นเรือนมรณะ  เป็นดาวมนตรีตามทักษา ผู้อุปถัมภ์ดี เพราะทั้งราหู๘ และอังคาร๓ ได้ตำแหน่งปัศวะเกณฑ์ด้วย

343. ยังมีอีกดาวหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาคือดาวศุกร์๖ เป็นดาวสำคัญ คือเป็นดาวศรีตามทักษา เป็นดาวมหาอุจจ์และเป็นดาวการเงิน ดาวดวงนี้ให้คุณอย่างยิ่งยวด แม้จะวินาสน์ก็ให้คุณ คือเงินสะพัดดี มีแล้วหมด ๆ แล้วมี ไม่มีเก็บ แต่เงินก็ไม่ขาดมือนาน เพราะเป็ฯดาวเจ้าเรือนกะดุมภะ มีคู่ดีและมีฐานะการเงินการงานดี เพราะเป็นดาวเจ้าเรือนปัตนิ แต่การครองรัก ต้องมีการแก้ไขบ้าง เช่นแยกกันอยู่ คือแยกห้องแยกเตียงนอน หรือทำงานที่ต้องมีการเดินทางบ่อย ไปโน่นมานี่

 

344. ทั้งหมดนี้เป็นการทายกันในแบบของพื้นดวง ยังไม่มีการทายจรด้วยดาวจร ทักษาจร ตรียวัยเดิมและจร บางคนอาจจะร้องยี้ ว่าการทายดวงเดิมเป็นเรื่องหมู ๆ ใคร ๆ ก็ทายได้ ไม่แน่นักหรอกครับ เพราะการทายพื้นดวงนี่เจ้าชะตาเขารู้ของเขาแล้วว่าเขาเป็นอย่างไร จนหรือรวย คู๋ดีหรือไม่ดีเพื่อนดีหรือไม่ดี ฯลฯ ทายสุ่มมีสิทธิ์หน้าแตกได้ครับ เว้นแต่ทายประจบสอพลอให้ถูกใจเขา

345. เพราะการทายของนักทายอาชีพมีหลักอยู่ 2 อย่าง ใน 2 อย่างนี้ต้องทายให้ถูกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่งั้นเป็นโหรดังหรือนักพยากรณ์อาชีพไปก็จะอับเฉา อย่างแรกต้องทายให้ถูกเรื่อง หมายถึงเมื่อผูกดวงแล้วมีจุดเด่นหรือจุดบกพร่องอะไรบ้างที่เห็นชัด ให้ทายตรงนั้นก่อนทันที จะผิดยาก อะไรที่คลุมเครืออย่าทายเป็นอันขาด อีกอย่างหนึ่งสำหรับดวงที่ไม่มีอะไรเด่นหรือด้อย ดวงแบบกลาง ๆ เช่นดวงแม่บ้าน ดวงคนไม่จนไม่รวย อย่างนี้รีบทายให้ถูกใจเข้าไว้ อย่างน้อยได้เงินแน่ ๆ ที่เสียห้ามทาย

 

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                            &







 
Best View 1024 x 768 pixels

Users Online Users Online


www.horawej.com เวปนิตยสาร โหราเวสม์  เพื่อการศึกษาค้นคว้า โหราศาสตร์ และศาสตร์ต่าง ๆ รวมทั้งโปรแกรมผูกดวงต่าง ๆ มากมาย ทางเรายินดี เป็นศูนย์กลางของการเผยแพร่ ความรู้ทางศาสตร์ แห่งโหรศาสตร์ และอื่น ๆ ที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใดหากท่านใดต้องการรับการพยากรณ์เชิญในห้องกระทู้ มีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิคอย ตอนรับท่าน อยู่หลายท่าน เรียนเชิญครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง webmaster horawej@horawej.com รับพยากรณ์ดวงชะตาและสอนเลข 7 ตัว 9 ฐานประยุกต์    www.horawej.com เวปนิตยสาร โหราเวสม์  เพื่อการศึกษาค้นคว้า โหราศาสตร์ และศาสตร์ต่าง ๆ รวมทั้งโปรแกรมผูกดวงต่าง ๆ มากมาย ทางเรายินดี เป็นศูนย์กลางของการเผยแพร่ ความรู้ทางศาสตร์ แห่งโหรศาสตร์ และอื่น ๆ ที่ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใดหากท่านใดต้องการรับการพยากรณ์เชิญในห้องกระทู้ มีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิคอย ตอนรับท่าน อยู่หลายท่าน เรียนเชิญครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง webmaster horawej@horawej.com web 10 luckastro.com เป็นเว็ปเพื่อการศึกษาโหราศาสตร์ 10 ลัคนา และโหราศาสตร์สาขาอื่น ๆ ทุกสาขาวิชา เว็ป 10 luckastro.com เป็นศูนย์รวมของนักพยากรณ์ทุกระดับทุกสาขาวิชา เป็นจุดนัดพบและสื่อสารในระหว่างนักศึกษาโหราศาสตร์ด้วยกัน และในระดับครูบาอาจารย์ เว็ป 10 luckastro.com ยินดีในการให้บริการตอบปัญหาทั้งปัญหาชิวิตและปัญหาทางโหราศาสตร์ www.tiantek.com เวปเพื่อการศึกษาค้นคว้า โหราศาสตร์จีน และ เลือกหัวข้อที่ต้องการดู (ดูได้ทุกเรื่องโดยไม่จำกัด) บอกวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากตามหลักสากล และบอกเหตุการณ์ที่ผ่านมา...เช่นแต่งงาน...มีบุตร ทำงานหรือทำธุรกิจ.เมื่อปีพ.ศ....และข้อสุดท้ายช่วยแจ้งด้วยว่าขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของดวง ข้อมูลยิ่งมากการทำนายยิ่งแม่น ถ้าภายใน 24 ชั่วโมง(หนึ่งวัน)ยังไม่ได้รับคำทำนาย อาตมาอนุญาติให้โทรเข้ามาถามดวงสดสดได้ 
เวปไซด์ของอาตมา เป็นเวป เพื่อการศึกษาและเผยแผ่ธรรมะ และถ้าโยมช่วยบอกต่อให้ผู้อื่นได้ทราบมากเท่าใดยิ่งได้บุญมากเท่านั้น 
Wireless Home Automation 
ท่านไม่ต้องเป็นวิศวกรหรือมีความรู้ทางด้านอิเลคโทรนิคส์ และไม่ต้องเดินสายไฟฟ้าเพิ่มเติม ท่านก็สามารถออกแบบและติดตั้งระบบบ้านอัจฉริยะได้อย่างสะดวกง่ายดายด้วยตัวท่านเอง  
ชุมนุมผู้เป็นปฏิปักษ์กับหัว ขโมย มหาหมอดู  PostJung.com เวบเพลง Online เพลง Update Intrend, หาเพื่อน MSN, Diary, Webboad โพสท์รูปซะใจ, PhotoAlbum ฯลฯ...Click เลย ศูนย์รวม CODE ทุกอย่าง Give information about Thai orchids